Romancing Saga เป็นอีกหนึ่งซีรีย์เกม JRPG ระดับตำนานที่ถูกสร้างขึ้นมาจาก Square Soft ในอดีตเคยโดดดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สมัยเครื่อง Super Famicom (SFC) ซึ่งเกมในซีรี่ย์ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 3 ภาคด้วยกัน สำหรับภาคแรกนั้นเคยได้รับการ Remake มาแล้ว 1 รอบ ลงในเครื่อง PS2 ใช้ชื่อเกมว่า Romancing SaGa: Minstrel Song (ไปตามหามาเล่นกันได้) การ Remake ภาค 1 นั้นมีการปรับภาพจาก 8 bit สูงกราฟฟิคระดับ 3D ถือว่าเป็นการ Remake ที่ทำออกมาได้ประทับใจเอามากๆ ทีนี้มาถึงตัว Romancing Saga 2 ที่เราจะพูดถึงกัน สำหรับในภาค 2 นี้ก็เป็นเกมที่ถูกสร้างขึ้นในสมัย SFC เช่นเดียวกัน ตอนนี้ได้ถูก Remake ฟื้นฟูกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และได้ถูกพัฒนาในเล่นได้บนมือถือทั้งในระบบ iOS และ Android โดยที่ตัวระบบต่างๆ ยังคงยึดเอาแบบเดิม มีการปรับกราฟฟิคให้ดูสวยงามขึ้น พร้อมเพิ่มสิ่งใหม่ๆ ที่มีเฉพาะเวอร์ชั่นมือถือเท่านั้น ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือได้รับการแปลภาษาจาก ญี่ปุ่น ให้กลายเป็น อังกฤษ ทั้งเกม
เกริ่นกันมาพอแล้วทีนี้มาพูดถึงตัวเกมกันบ้างสำหรับเกม Romancing Saga 2 นั้นเป็น JRPG ของแท้ ส่วนที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของการดำเนินเนื้อเรื่องภายในเกมที่ไม่เป็นเส้นตรง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกทำ Event อะไรก่อนหรือหลัง ซึ่งการเลือกนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อ Event ต่อๆ ไปตามกันมาเป็นลูกโซ่ แถมการทำ Event 1 อย่าง จะมีทางเลือกที่หลากหลายไม่มีฉากจบ Event เพียงแบบเดียวเท่านั้น มันอาจจะทั้งแบบสมบูรณ์ที่คุณสามารถช่วยเมืองปราบปีศาจลงได้ หรืออาจจะจบแบบไม่ค่อยสวยโดยที่เมืองแห่งนั้นถูกทำลาย ก็ขึ้นอยู่ตัวคุณเอง ที่เป็นคนดำเนินเนื้อเรื่อง ทำให้ตัวเกมมีความหลากหลายสามารถเล่นจบได้หลายรอบแบบที่เรายังไม่เบื่อ เพียงแต่ตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องหลักที่ให้เราต้องออกไปปราบเหล่า 7 ผู้กล้าแห่งยุคอดีต ที่ตอนนี้กลับเปลี่ยนตัวเองกลายมาเป็นตัวร้ายเสียแล้ว ส่วนเรื่องของลำดับการปราบนั้น จะไม่มีเส้นทางกำหนดที่แน่นอนขึ้นอยู่กับตัวเราเองล้วนๆ ตามที่ได้กล่าวไปว่ามันมีอิสระในการดำเนินเนื้อเรื่อง (ยกเว้นช่วงแรกจะเป็นเนื้อเรื่องบังคับจนจบการปราบ Kzinssie ที่เป็นหนึ่งใน 7 ผู้กล้า)
อีกหนึ่งส่วนที่ต้องขอพูดถึงก็คือระบบการ Inherit หรือการสืบทอดความสามารถ ในช่วงแรกของเกมนั้น ตัวเกมจะดำเนินเนื้อเรื่องแบบเป็นยุคสมัย โดยหากเราผ่านเนื้อเรื่องถึงจุดๆ หนึ่งจะมีการข้ามยุคสมัยทำให้เวลาไหลผ่านไปอีกประมาณ 200 ปี ตรงจุดนี้เราจะต้องเลือกผู้สืบทอดคนใหม่ ที่จะสืบทอดความสามารถต่างๆ ของตัวละครหลักเราทั้งหมด โดยการสืบทอดนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อถึงยุคปีประมาณ 2000+ และตัวละครหลักของเราจะกลายเป็นตัวที่เราสร้างและตั้งชื่อเอาไว้ตอนเริ่มเกม
ส่วนตัวเกมเปิดวางจำหน่ายอยู่ในราคา 17.99$ หรือ 725 บาท สำหรับราคาดูเหมือนว่ามันจะสูงเกินไปหน่อย แต่ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี สำหรับคนที่เป็นขาเกมแนว RPG อยู่แล้วห้ามพลาด หรือสำหรับคนที่มองหาเกมเอาไว้เล่นบนถือแบบนานๆ เกมนี้รับรองว่าโดนใจแน่ เพราะเราสามารถเล่นมันได้เรื่อยๆ ถึงแม้จบไปแล้ว 1 ครั้งการเล่นใหม่ก็ยังคงความสนุกอยู่ การเล่นรอบใหม่ เราสามารถเดินเนื้อเรื่องที่แตกต่างจากเดิมได้
ลิงค์โหลดเกม
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.square_enix.android_googleplay.romancingsaga2_ww
iOS : https://itunes.apple.com/us/app/romancing-saga-2/id1083835330?mt=8
คำแนะนำการเล่นเบื้องต้น
– หลังจากผ่านการตายของ Leon ที่เป็นจักรพรรดิองค์แรกของ Avalon แล้ว มาถึงยุคของ Gerard ตอนนี้ถึงจะเริ่มรับสมัครพรรคพวก สร้าง Party เป็นของตัวเองได้ โดยพรรคพวกของเราช่วงแรกจะสามารถ ชักชวนได้จากทหารที่อยู่ใน วังชั้นแรก ซึ่งจะมีอาชีพพื้นฐานตามตัวละครที่เราชวนก็คือ Heavy Infantry, Ranger, City Fighter, Light Infantry, Court Mage (เลือกได้ระหว่างสายไฟกับสายลม) ส่วนอาชีพอื่นๆ จะปลดล็อคเมื่อผ่านเนื้อเรื่องของแต่ละพื้นที่ถึงจะได้รับมา โดยการชักชวนก็ต้องตามไปยังพื้นที่นั้นๆ ถึงจะชวนได้ แต่ละอาชีพก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
– ค่า LP หรือ Life Point เป็นค่าพลังชีวิตหลักจริงๆ ของเกม เมื่อเราตาย 1 ครั้งจะลดค่า LP ลง 1 แต้ม หากแต้มนี้เหลือ 0 เท่ากับว่าตัวละครนั้นๆ ตายจริงแล้ว ส่วนวิธีการเพิ่มค่า LP จะเพิ่มได้จากไอเทม ซึ่งหาได้ยากและมีจำนวนน้อยมาก อันที่หาได้ง่ายที่สุดก็คือ ทุกครั้งที่มีการผ่านยุคจะได้รับไอเทมเพิ่มค่า LP 1 แต้มมา 1 ชิ้น ดังนั้นทางที่ดีห้ามทำตัวละครตายในระหว่างการสู้ธรรมดา ดองค่า LP เอาไว้ใช้ตอนสู้บอสจะดีกว่า
– ควรเดินเข้าชนมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในฉาก อย่าวิ่งเข้าใส่ เพราะจะทำให้ Battle Formation พัง : อันนี้เป็นคำแนะนำสำหรับมือใหม่อีกหนึ่งอย่างภายในเกม ซึ่งเวลาเดินไปมาในฉาก จะมีแบบวิ่งและเดิน หากเราเคลื่อนที่แบบปกติจะเป็นการวิ่ง แต่ถ้าหากเราแตะที่ปุ่ม D ทางด้านขวาล่างแล้วค่อยบังคับทิศทางจะเป็นการเดินไปมาแทน ซึ่งการเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์นั้น จำเป็นต้องเดินเข้าชน หรือให้มันพุ่งใส่เราแทน จะดีกว่า แต่หากเราวิ่งชนมอนสเตอร์จะทำให้ Battle Formation Broken ปรับเป็นไม่มีผลและกลายเป็น Formation แบบ Free for All แทน
– เกมนี้ไม่มีเลเวลหลักของตัวละคร แต่เลเวลจะไปอยู่กับค่าความชำนาญในการใช้อาวุธหรือเวทมนตร์แทน ซึ่งตัวอาวุธจะแยกออกเป็น 5 ประเภท Swords/Great Swords, Spears/Epees, Maces/Axes, Bows, และ Martial Arts (มือเปล่า) ส่วนเวทมนตร์ก็จะแยกความชำนาญอีก 5 ธาตุ Fire, Water, Wind, Earth, Light และ Dark
– เกี่ยวกับเรื่องเงินภายในเกม สำหรับค่าเงินหลักนั้นจะเรียกว่า Imperial Treasury หรือเงินในท้องพระคลังของอาณาจักรเรานั่นเอง เงินส่วนนี้จะสามารถนำมาไปใช้ในการวิจัยอาวุธ อุปกรณ์ และเวทมนตร์ใหม่ๆ ได้ รวมไปถึงนำไปพัฒนาเมืองของเราให้มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่สำคัญเช่น Magic Research Center ที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้เวทมนตร์บทใหม่ และเวทมนตร์ของธาตุอื่นๆ ได้ ส่วนเงินนั้นจะหาได้จากการเปิดกล่องสมบัติในดันเจี้ยนต่างๆ และได้จากการต่อสู้ เมื่อเข้าสู่ฉากต่อสู้จะเป็นการเพิ่มเงินในท้องพระคลังทันที ตามจำนวนภาษีที่เราเก็บสะสมได้ วิธีการเพิ่มค่าภาษีก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเมืองในแผนที่ที่ยึดครองหรือเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรเรา เราสามารถตรวจสอบจำนวนเงินทั้งหมดและค่าภาษีได้ที่ NPC ในปราสาท Avalon อยู่บนชั้น 2 ห้องทางด้านซ้ายของบัลลังก์
-มี NPC เป็นไกด์ช่วยบอกการดำเนินเนื้อเรื่องพื้นฐาน อยู่ห้องทางด้านขวาของบัลลังก์ ถึงแม้ตัวเกมจะให้อิสระในการดำเนินเนื้อเรื่อง แต่สำหรับมือใหม่อาจต้องการตัวช่วย ก็แนะนำให้ไปคุยกับ NPC ที่อยู่ในห้องทางด้านขวาของบัลลังก์ในปราสาท Avalon โดยตัว NPC จะแนะนำว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาบ้าง ซึ่งเราสามารถทำตามที่ไกด์แนะนำได้เลย
– เทคนิค ท่า สกิลประจำอาวุธ ต่างๆ เมื่อข้ามผ่านยุคแล้ว จะสามารถเรียนรู้ได้ทันทีจาก NPC ทหารในห้องใหญ่ที่อยู่ในชั้น 1 ของปราสาท
– วิธีการหา Battle Formation ใหม่ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเวลาที่เปลี่ยนยุค แล้วให้เลือกตัวละครหลักใหม่ จะต้องเลือกตัวละครที่มีอาชีพไม่ซ้ำเดิมและไม่ใช่อาชีพพื้นฐาน 5 อาชีพแรก เมื่อเราเลือกอาชีพใหม่เป็นตัวละครหลักแล้ว ก็ให้ไปที่ชั้น 1 เข้าห้องที่ใหญ่ที่สุดอยู่ทางขวาบน แล้วให้คุยกับหัวหน้าทหารในห้องนั้น จะเป็นการเรียนรู้ Battle Formation ใหม่ได้
– ไอเทมจากยุคเก่าจะถูกเก็บอยู่ในคลัง เมื่อข้ามผ่านยุคมาแล้วเลือกตัวละครใหม่ จะพบว่าไอเทมต่างๆ นั้นหากไปเกือบหมด ก็ไม่ต้องตกใจไป ไอเทมที่หายไปจะถูกเก็บอยู่ในคลัง ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 2 ของปราสาท Avalon ในห้องด้านขวาบนสุด
– ควรเซฟเกมให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ หากให้ดี ปราบมอนสเตอร์ลงได้ 1 ครั้งก็ให้เซฟเลย เนื่องด้วยเรื่องของค่า LP นั้นมีอยู่อย่างจำกัดไม่สามารถฟื้นคืนได้ ทำให้ในระหว่างการต่อสู้หากสมาชิกในปาร์ตี้ตายลงไป จะสิ้นเปลืองค่า LP ไปแล้ว 1 แต้ม ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ควรจะ Load เซฟแทนจะดีกว่า แล้วค่อยเข้าต่อสู้ใหม่อีกครั้ง หรือเห็นว่ามอนสเตอร์มันเก่งเกินไปสู้ยังไงก็ตายแน่นอนให้กดที่คำว่า Flee เพื่อหนีได้ทันที (คำสั่ง Flee มีเฉพาะในตัวละครหลักเท่านั้น)
– Inn หรือ โรงแรมทุกแห่งเข้าพักได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และการพักผ่อนจะเป็นการฟื้นฟูค่า SP และ MP ให้เต็มเปี่ยม
– มอนสเตอร์ภายในเกมจะเก่งขึ้นตามจำนวนครั้งที่ต่อสู้ ยิ่งเราต่อสู้เยอะมากเท่าไหร่ มอนสเตอร์ก็จะเก่งขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน เพียงแต่เหล่าบอสภายใน Event ต่างๆ จะไม่ได้เก่งขึ้นตาม
ลิงค์โหลดเกม
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.square_enix.android_googleplay.romancingsaga2_ww
iOS : https://itunes.apple.com/us/app/romancing-saga-2/id1083835330?mt=8