เมาส์ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าส่วนที่แปลกตาส่วนแรกเลยก็คือเรื่องของสี เพราะเมาส์ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำ แต่ทาง KOVA 2016 ตัวนี้ได้ถูกกปรับให้เป็นสีขาว ซึ่งดูแล้วสวยงามเอามากๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับการทำความสะอาดบ่อยหน่อย มาพร้อมด้วยแสงไฟที่สามารถเลือกปรับได้ 16.8 ล้านสี (RGB) ส่วนของความสามารถนั้นก็นับว่าไม่ธรรมดา มีทั้ง Marco และ Memory ในตัว ปรับ DPI ได้สูงสุดที่ 7,000 ส่วนราคาก็ไม่แรงเกินไปที่ 1,890 บาท
ข้อมูลสเปค
รูปร่าง : Ambidextrous เม้าส์ที่ออกแบบมาให้สมดุลใช้ได้ทั้งมือซ้ายและขวา
ปุ่ม Marco : 6 ปุ่ม ตรงบริเวณด้านข้่างของตัวเมาส์ ข้างละ 3 ปุ่ม
ความยาวของสาย USB : 1.8m แบบสายถัก
น้ำหนัก : 99 กรัม
ขนาดของเมาส์ : ความกว้าง 6.6 cm , ความสูง 3.8 cm , ความยาว 13.1 cm
สีของไฟ LED ที่ปรับได้ : 16.8 ล้านสี (RGB),
ส่วนเสริม : มี Memory ในตัว, ปรับอัตราตอบสนองได้สูงสุดที่ 1000 Hz, รองรับ DPI สูงสุดที่ 7000, ปุ่มของปุ่มรวมทั้งหมดจะมี 12 ปุ่ม สามารถเลือกปรับปุ่มตามต้องการได้ (แต่ปุ่มที่เพิ่มสำหรับ Marco โดยเฉพาะจะมี 6 ปุ่ม)
ราคา : 1,890 บาท
รีวิว
สำหรับเมาส์ Kova ตัวนี้แค่เพียงแกะกล่องออกมา ก็ได้ให้เห็นถึงความขาวเนียนสวยงามเป็นอย่างมาก และหลังจากที่ได้ลองสัมผัสและใช้งานดูก็พบว่าเป็นเมาส์ที่ดีมากตัวหนึ่ง เหมาะเป็นอย่างมากสำหรบผู้ที่จับเมาส์แบบ Palm Grip คือเอามือทาบลงไปทั้งมือกับตัวเมาส์เลย เพราะเมาส์ตัวนี้ได้ออกแบบส่่วนโค้งมารองรับมือได้อย่างพอดิบพอดี และขนาดของเมาส์ที่ใหญ่พอที่จะรองรับการจับในรูปแบบนี้ ส่วนตำแหน่งของปุ่ม Marco ที่อยู่ด้านข้างนั้นก็อยู่ในตำแหน่งที่ดี ทำให้กดใช้งานได้ง่าย และตัวเมาส์ด้วยความที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้การสะบัดเมาส์ก็ทำได้ดี และไม่กินพื้นที่เกินไปนัก การเลือกปรับ DPI ก็ปรับได้ละเอียดถึง 7,000 มีความแม่นยำสูง ทำให้เหมาะกับการเล่น FPS ทั้งเกม Overwatch, Point Blank ตัวเมาส์นี้ก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของดีไซน์คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะมันดูแล้วถึงแม้ไม่ฉูดฉาด แต่ก็เรียบเนียบสวยแบบดูดีมีสไตล์ ยิ่งจัดเอามาวางคู่กับคีย์บอร์ดของ Suora ด้วยแล้ว จะเข้าคู่กันได้อย่างดี เพราะทั้ง 2 มีดีไซน์ที่คล้ายตรงที่เรียบแต่ดูหรู