จนถึงตอนนี้คาดว่าหลายคนก็คงจะเล่นจบกันไปแล้วสำหรับเกม Resident Evil Village ซึ่งเป็นภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์ผีชีวะ และนับว่าเป็นภาคที่ทาง Capcom กล้าที่จะหยิบเรื่องราวจากภาคที่ 7 มาเล่าต่อให้ได้เล่นกัน โดยนับว่าเป็นครั้งแรกที่เนื้อเรื่องของภาคถัดมาจะต่อกันจากภาคที่แล้วด้วย โดยวันนี้เราจะมารีวิวกับเล่าความรู้สึกในการเล่นภาคนี้จนจบมาให้อ่านกันครับ
Resident Evil Village ยังคงพัฒนาขึ้นมาโดย Capcom แต่เป็นการเปลี่ยน Director มาเป็นคุณ Morimasa Sato และได้ยอดฝีมืออย่างคุณ Antony Johnston มารับหน้าที่ในการเขียนบทให้โดยผลงานที่ผ่านๆ มาคือการเขียนบทให้ทั้ง Shadow of Mordor, ZombiU และ Dead Space ทุกภาค ซึ่งบอกเลยว่าพอเล่นจบแล้วคงมีคนลุกขึ้นมาปรบมือให้กับบทของเกมในภาคนี้ที่มีครบทุกรสได้อย่างแน่นอน
กราฟิก
สำหรับสิ่งที่แรกที่ขอพูดถึงกันก่อนก็คือกราฟิกในเกมยังมีการใช้ RE Engine เหมือนกับภาคที่ 7 แต่มีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ในหลายๆ ส่วน มันก็เลยทำให้งานภาพออกมาดูดีมาก ทั้งรายละเอียดของฉาก แสงเงา หรือบรรยากาศโดยรวมที่ชวนขนลุก ซึ่งแน่นอนเมื่อมุมมองในการเล่นยังเป็นแบบ FPS เหมือนกับภาคที่แล้ว มันก็ยิ่งทำให้เราเข้าถึงประสบการณ์อันตื่นเต้นและน่ากลัวได้แบบสมจริงกว่ามุมมองแบบ CCTV แม้ว่าบางคนจะมีอาการปวดหัวและไม่ถูกกับมุมกล้อง FPS อยู่บ้าง ส่วนเรื่องเสียงในเกมนี้ก็ยังคงทำให้เราหวาดระแวงได้ตลอดเวลา ยิ่งบางฉากที่เงียบๆ ก็สร้างความกดดันได้อย่างดีเลยล่ะครับ
เรื่องราว
อย่างที่บอกไปแล้วว่านี่คือการหยิบเรื่องราวจากภาคที่ 7 มาสานต่อและเล่าเหตุการณ์ต่อมาว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภาคที่ 8 นี้ มันก็เลยยิ่งทำให้เราอินกับตัวตัวละครเก่าๆ ที่เพิ่งได้เล่นไป ซึ่งเราจะยังคงได้เล่นเป็น “Ethan Winters” ที่หนีไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับภรรยา “Mia” และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่า “Rosemary” จนวันหนึ่ง “Chris Redfield” ก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาและพรากลูกไปจากอีธานจนเราต้องเดินทางออกไปตามหาและหาคำตอบให้ได้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นตามตัวอย่างของเกมที่ได้เห็นกัน ส่วนใครอยากรู้ทางเราก็ไม่ขอสปอยนะครับ ไปหาซื้อมาเล่นกันได้รับรองว่าคุ้มค่า
เกมเพลย์
รูปแบบในการเล่นของภาคนี้จะเหมือนกับภาคที่ 7 คือเป็นมุมมองแบบ FPS ยิงซอมบี้และแก้ปริศนาต่างๆ ตามสไตล์ของ Resident Evil แต่เปลี่ยนจากบ้านแคบๆ หรือพื้นที่ขนาดเล็กมาเป็นหมู่บ้านที่กว้างใหญ่ซึ่งมีทางเชื่อมต่อไปยังอีกหลายสถานที่ เช่น ปราสาทของแวมไพร์สาว Lady Alcina Dimitrescu และบรรดาลูกๆ ของเธอ ด้วยความที่แผนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจึงทำให้เรามีเวลาในการสำรวจมากขึ้น ค้นพบเส้นทางใหม่ๆ ที่เชื่อมต่อกัน แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความน่ากลัวและบรรยากาศของแต่ละสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
นอกจากอาวุธปืน ยาหรือการคราฟของแล้ว ระบบการจัดการทรัพยากรยังคงคล้ายกับภาคเก่าๆ โดยเรายังสามารถซื้อขายอาวุธและไอเทมได้ (คล้ายกับ RE4) ผ่านพ่อค้าที่ชื่อว่า Duke และยังสามารถล่าสัตว์บางชนิดในหมู่บ้านเพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารได้ โดยการกินอาหารจะทำให้ผู้เล่นได้รับประโยชน์แบบถาวรให้กับตัวละคร เช่นเพิ่มเลือดสูงสุด หรือเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ เป็นต้น
การต่อสู้กับศัตรูในภาคนี้จะมีหลากหลายรูปแบบมาก ทั้งยิงโจมตีซึ่งหน้าหรือจะอาศัยการป้องกันและพลักศัตรูออกเพื่อหลบหนีก็ทำได้ โดยศัตรูในแต่ละสถานที่ก็จะค่อนข้างแตกต่างกัน และยิ่งการต่อสู้กับศัตรูระดับบอสจะเป็นอะไรที่สะใจมากๆ เช่นกัน ส่วนปริศนาในภาคนี้ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีนะครับไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป แถมเมื่อกดแผนที่ดูจะบ่งบอกด้วยว่าเราเก็บของในพื้นที่นั้นๆ ไปหมดหรือยัง เช่นสีแดงคือยังไม่หมด ถ้าเก็บหมดแล้วจะเป็นสีฟ้า เป็นต้น
สรุปภาพรวม
หลังจากเล่นจบไปแล้วต้องยอมรับว่า Resident Evil Village คือภาคที่ประทับใจที่สุดของผู้เขียนและเชื่อว่าหลายคนที่ได้เล่นก็คงจะชอบเช่นกัน มันเป็นภาคที่มีครบรสทุกอารมณ์ มีบทและเรื่องราวที่ชวนติดตาม และแถมเกมนี้ยังมีภาษาไทยจากทาง Capcom มาให้ด้วยยิ่งเล่นกันเข้าถึงเนื้อเรื่องกันมากขึ้น โดยหากใครที่เล่นจบก็จะมีโหมด The Mercenaries ให้เล่นเก็บคะแนนเพื่อปลดล๊อคไอเทมกันด้วย พร้อมกับในอนาคตก็จะมีการเปิดให้เล่นฟรีอีกหนึ่งโหมดคือ Resident Evil Re:Verse
Resident Evil Village มีวางจำหน่ายให้เล่นกันแล้ววันนี้พร้อมกับการรองรับภาษาไทย สามารถหาซื้อมาเล่นกันได้ทั้งบน PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S และ Stadia
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว