วางจำหน่ายให้ได้เล่นกันพักใหญ่ๆ แล้วสำหรับ Metaphor: ReFantazio เกมแนว JRPG จากทาง Studio Zero ที่นำโดย Katsura Hashino ผู้สร้างเกมตระกูล Persona และได้ SEGA ATLUS เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งทางเราก็เพิ่งได้มีโอกาสลองเล่นเกมนี้ไปจนจบเรียบร้อยแล้ว แม้จะช้าไปซักนิดเพราะรายละเอียดเกมนั้นเยอะจริงๆ แต่ก็ขอนำเอารีวิวรายละเอียดเกมและความรู้สึกในการเล่นมาให้อ่านกันครับ
อย่างที่ได้บอกไปครับ Metaphor: ReFantazio เป็นผลงานของ Studio Zero ซึ่งอยู่ภายใต้ของ ATLUS และทีมงานในการพัฒนาส่วนใหญ่ก็เคยฝากผลงานในซีรีส์ Persona กันมาก่อน นั่นทำให้ทั้งลายเส้น การออกแบบงานศิลป์ หรือแม้แต่ระบบเกมหลายๆ ส่วนของเกมนี้มีความคล้ายคลึงกัน แต่ Metaphor: ReFantazio ก็มีจุดเด่นและสิ่งที่แตกต่างอยู่พอสมควร และเหมือนกับว่าทีมพัฒนาได้ใส่รายละเอียดอะไรใหม่ๆ เข้าไปในเกมนี้กันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบมากเพราะเกมมันดูมีสเน่ห์ดึงดูดใจสุดๆ
เรื่องราวของ Metaphor: ReFantazio ดำเนินเรื่องราวในโลกแฟนตาซียุคกลางที่มีเผ่าพันธุ์หลากหลายอยู่ร่วมกัน โดยเกี่ยวกับ อาณาจักร Euchronia ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการปกครองเพราะราชาคนปัจจุบันถูกสังหารโดยแม่ทัพใกล้ชิด ส่วนรัชทายาทผู้สืบทอดก็โดนคำสาปมนต์ดำจนต้องไปหลบซ่อนอยู่ในหมู่บ้านอันห่างไกล ดังนั้นจึงเกิดการแข่งขันคัดเลือกราชาคนใหม่ที่จะขึ้นมาปกครองอาณาจักรแห่งนี้ ผู้เล่นจะได้เล่นเป็นตัวเอกคือเด็กหนุ่มชาว Elda ที่เดินทางมาพร้อมกับภูติจิ๋วสู่เมืองหลวงเพื่อเรื่องรัชทายาทที่โดนมนต์ดำ
เอาจริงๆ เรื่องราวในเกมนี้มีเนื้อหาที่หนักมากๆ ทั้งเรื่องการเมืองการปกครอง การแย่งชิงอำนาจ และตัวโลกของเกมเองที่มีเรื่องการดูถูกเหยียดหยามแบ่งชนชั้นกันระหว่างเผ่าพันธุ์ แถมตัวเอกที่เราเล่นยังเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำสุดๆ อีกต่างหาก แน่นอนว่าการเล่นเกมนี้ก็ต้องอาศัยความเข้าใจในภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวถึงจะอินไปกับเนื้อเรื่องได้แบบเข้าถึงอารมณ์ ซึ่งเนื้อเรื่องจะค่อยๆ เข้มข้นไต่ระดับไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าสาแก่ใจยิ่งนัก
กราฟิกงานภาพและเสียงเพลงประกอบของเกมนี้เป็นอะไรที่โดดเด่นอยู่แล้วถ้าพูดถึงมาจากผู้สร้างซีรีส์ Persona การออกแบบตัวละครและโลกยุคกลางผสมแฟนตาซีก็ทำออกมาได้ดี แต่จะมาในลักษณะของงานภาพที่เป็นการ์ตูน ดูอาร์ตๆ ไม่ได้เน้นสมจริงหรือใส่รายละเอียดเยอะๆ มีการนำเสนอเรื่องราวที่มีฉากแทรกเป็นอนิเมชั่นสวยๆ ให้รับชมกันแบบจุใจ ส่วนพวกฉากสถานที่ต่างๆ ก็ถือว่าสวยงามในระดับหนึ่งแต่ไม่ได้หวือหวามาก งานแสงเงาต่างๆ พวกพื้นผิวก็ไม่ได้ดีนักในบางจุด แต่ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของ UI ต่างๆ ที่ทำมาในสไตล์กราฟิกเท่ๆ สวยงาม เข้าใจได้ง่าย และเป็นเอกลักษณ์สุดๆ ส่วนเพลงประกอบก็เหมาะกับแนวแฟนตาซีที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ฉาก ยิ่งเฉพาะฉากต่อสู้นี่บอกเลยฮึกเหิมสุดๆ
ในด้านของเกมเพลย์ Metaphor: ReFantazio จะมีระบบการต่อสู้และการเล่นที่คล้ายๆ กับ Persona คือเป็น Turn-based RPG สลับออกคำสั่งกันโจมตี และมีเรื่องของการแพ้ทางพวกธาตุต่างๆ อยู่ด้วย แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือเกมนี้มีรูปแบบของการโจมตีในฉากแผนที่แบบ Realtime Action อยู่ด้วย คือในระหว่างที่เราเดินอยู่ในแผนที่หรือดันเจี้ยนปกติเราก็จะเห็นพวกมอนสเตอร์เดินอยู่และเข้าไปโจมตีใส่ทันทีได้ ยิ่งเป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนกว่าเราก็จะเป็นการโจมตีทีเดียวตาย หรือถ้ามันเก่งก็จะเป็นการเหมือนกับชิงโจมตีก่อนเพื่อทำลายเกจป้องกัน สร้างความได้เปรียบ แล้วจากนั้นจะตัดสลับเข้าสู่ฉาก Turn-based ต่อ เป็นต้น กลับกันถ้าเราโดนโจมตีก่อนในฉากแผนที่เราก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแทนนั่นเอง
พูดถึงการต่อสู้ใน Turn-based แล้ว ตัวเกมมีการใช้ระบบ Archetype คือเป็นระบบที่สมาชิกในปาร์ตี้จะมีพลัง Archetype เฉพาะตัวซึ่งจะมีค่าสเตตัสแยกตามสายคล้ายๆ คลาสอาชีพ แต่เราสามารถที่จะสลับเปลี่ยนสายข้ามไปมาได้ตลอดเพื่อที่จะเอาสกิลจากคลาสอื่นมาใช้งานได้ผ่านระบบ Inherit ซึ่งจะมีสกิลของ Archetype มากมายให้ได้ปลดล๊อค ระบบนี้จะช่วยให้ผู้เล่นสร้างความหลากหลายในการต่อสู้ได้อย่างดี เช่นจะปรับแต่งคลาส Warrior ให้มีสกิลฮีลก็สามารถทำได้ เป็นต้น แถมยังมีเรื่องของเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการจัดทีมที่มี Archetype ตรงตามที่ระบุเพื่อใช้สกิลท่าประสานคอมโบร่วมกันอีกต่างหาก ส่วนจังหวะความเร็วในการต่อสู้ก็ดูรวดเร็วขึ้นมากถ้าเทียบกับ Persona 5
สรุปภาพรวมแล้ว Metaphor: ReFantazio ถือเป็นเกมที่สนุกและเล่นได้เพลินมาก เป็น JRPG ที่ให้ผู้เล่นได้คิดวางแผนในการต่อสู้อยู่ตลอด มีงานอาร์ต ภาพ การออกแบบต่างๆ ที่โดดเด่น แถมตัวเกมยังมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก ใครชอบการต่อสู้แบบต้องใช้ความคิดหรือเป็นแฟนของซีรีส์ Persona มาก่อนบอกเลยไม่ควรพลาดจริงๆ
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว