ช่วงนี้ต้องบอกว่ามีเกมวางจำหน่ายให้ได้เล่นกันเยอะมากจนเล่นไม่ทันเลยทีเดียว ล่าสุดมีโอกาสได้ลอง Marvel’s Spider-Man 2 ในเวอร์ชั่น PC เกมเด่นเกมดังจาก PlayStation ที่ช่วงแรกตัวเกมมีปัญหาในการพอร์ตมาลง Steam แบบหนักหนามาก เอาเป็นว่าหลังจากที่ได้เล่นไปจนจบอีกรอบก็เลยจะมารีวิวตัวเกมและความรู้สึกในการเล่นบน PC ให้อ่านกันครับ
Marvel’s Spider-Man 2 ผลงานภาคต่อจากทีมพัฒนา Insomniac Games ที่ก่อนหน้านี้มีวางจำหน่ายภาคแรกบน PC ไปแล้ว มีหรือที่ภาค 2 จะไม่ตามมา หลังจากที่ลงบน PS5 มาร่วมปีก็ถึงเวลาให้ชาว PC ได้ลุยไอ้แมงมุมกันต่อบ้าง ซึ่งอย่างที่ได้เกริ่นไปว่าในช่วงวางจำหน่ายบน PC วันแรกๆ ตัวเกมมีปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพอย่างมาก เรียกว่าโดนด่าเละเลยทีเดียวเพราะแฟนๆ คาดหวังว่าตัวเกมจะสนุกและดีกว่าบน PS5 แต่กลายเป็นทั้งมีปัญหาเรื่องกราฟิก ทั้งเกมเด้งหลุด ทั้งบั๊กต่างๆ หนักสุดก็หนีไม่พ้นเฟรมเรตกระตุกและร่วงยับๆ
แน่นอนว่าทางทีมงานไม่อยู่นิ่งเฉยแน่ๆ หลังจากที่ออกแพทช์แก้กันรัวๆ ไปจนถึงแพทช์แก้ใหญ่ (Patch 4) เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ปัญหาหลายๆ อย่างก็ได้รับการแก้ไขแล้ว จนคำวิจารณ์กลับมาเป็น “แง่บวกเป็นส่วนมาก” ได้สำเร็จในหน้าร้านค้า Steam
สำหรับคุณสมบัติของตัวเกมในเวอร์ชั่น PC ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และน่าสนใจกว่าบน PS5 อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของกราฟิก การปลดล็อคแฟรมเรตเพื่อให้เล่นกันได้ไหลลื่นขึ้น รวมถึงการอัปสเกลและการสร้างเฟรมของ NVIDIA DLSS 3 และ AMD FSR 3.1 แถมยังรองรับเทคโนโลยีอัปสเกลของ Intel XeSS ด้วยเช่นกัน ทำให้งานภาพเรียกว่าจัดเต็มสวยงามเลยจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอเรื่องของ Ray Tracing ก็ใส่มาเต็มด้วยเช่นกัน ทั้งภาพสะท้อน การจำลองแสงเงาวัตถุ เวลาไต่หรือโหนใยผ่านตึกก็มีเงาสะท้อนบนกระจกให้เห็นกันแบบเหมือนจริง ในจะเรื่องการสะท้อนของน้ำหรือพื้นผิว ทำให้เมืองนิวยอร์กมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ผู้ที่ใช้ NVIDIA GeForce RTX GPU สามารถใช้งานฟังก์ชัน DLSS Ray Reconstruction ได้ เทคนิคนี้ใช้เครือข่าย AI ที่ฝึกจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ NVIDIA ที่สร้างพิกเซลคุณภาพสูงขึ้นระหว่างลำแสงตัวอย่าง ช่วยให้ได้ภาพแบบ Ray Tracing ที่คมชัดและสมจริงยิ่งขึ้น และถ้าใครที่ใช้พวกจอมอนิเตอร์แบบกว้างๆ ตัวเกมก็รองรับการติดตั้งหน้าจอหลากหลายแบบ รวมถึงความละเอียดอัตราส่วน 16:9, 16:10, 21:9, 32:9 และ 48:9 ในการติดตั้งสามหน้าจอโดยใช้ NVIDIA Surround หรือ AMD Eyefinity
ส่วนการเล่นบน PC นั้นก็ยังมีการรองรับจอย DualSense ให้เราได้เล่นกันเหมือนกับเกมอื่นๆ ของ PlayStation ที่พอร์ตมาลง PC ซึ่งจะให้ประสบการณ์การเล่นที่เหมือนกันทั้งในเรื่องของการสั่นและการยิงใยหรือการใช้คอมโบต่างๆ และถ้าหากว่าใครที่เชื่อมไอดี PSN ก็จะใช้งานระบบ PlayStation Overlay มีการเก็บพวกถ้วยหรือ Trophy ของ PlayStation ได้อีกด้วย แต่ถ้าใครไม่อยากเชื่อม PSN ทาง Sony ก็ไม่มีการบังคับในเกมนี้
ส่วนรายละเอียดการเล่นในเกมก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรต่างจากบน PS5 โดยที่ Marvel’s Spider-Man 2 ในภาคนี้เราจะสามารถเล่ยสลับไปมาระหว่างปีเตอร์และไมลส์ได้ ซึ่งเรื่องราวก็เกิดขึ้นหลังผ่านจากภาค Miles Morales มาร่วมหลายเดือนแล้ว โดยเรื่องราวในส่วนของปีเตอร์นั้นจะเน้นไปที่ชีวิตวัยทำงาน ความรับผิดชอบ และการเสียสละ พร้อมกับเนื้อหาที่ดรามากินใจ ที่บอกเลยว่าปัญหาชีวิตต่างๆ พากันเข้ามาถล่มปีเตอร์แบบจุกกันไปข้าง ดูซีเรียสจริงจังมากกว่าภาคแรกขึ้นหลายเท่าตัว บ่งบอกถึงความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ฟากฝั่งของไมลส์นั้นจะโตขึ้นและมีส่วนร่วมกับชุมชนมากขึ้น
เกมเพลย์โดยรวมถ้าใครที่เคยเล่นภาคแรกมาก่อนก็จะคุ้นเคยกันดี ในรูปแบบของ Action adventure Open World โดยมีฉากหลังเป็นมหานครใหญ่อย่าง New York ที่แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนคือ ย่าน Queen และ Brooklyn ให้เราสามารถสลับเล่นระหว่างสองตัวละครได้ มีการทำภารกิจต่างๆ ทั้งเนื้อเรื่องและยิบย่อย ภาคนี้มีเพิ่มความสามารถในการร่อนไปในอากาศด้วย web wings ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันในการเคลื่อนที่ได้อย่างดี ส่วนอื่นก็มีทั้งการปลดล๊อคชุด การอัปเกรดสกิล อุปกรณ์ กับท่าทางคอมโบต่างๆ ซึ่งจะมีท่าคอมโบคู่เข้ามาด้วย
โดยรวมแล้วถือว่า Marvel’s Spider-Man 2 เวอร์ชั่น PC หลังจากที่ได้รับการแพทช์แก้ไขแล้วดูค่อยน่าเล่นขึ้นมากว่าตอน Day 1 มากๆ ด้วยความสนุกของเกมเพลย์กับเนื้อเรื่องนั้นหายห่วงอยู่แล้ว แถมตัวเกมยังมีรองรับภาษาไทยด้วย เอาเป็นว่าถ้าใครที่ยังไม่เคยเล่นโดยเฉพาะแฟนๆ PC ก็ลองไปหาซื้อมาเล่นกันได้ แต่ถ้าใครที่เล่นบน PS5 ไปแล้วก็มีรายละเอียดที่เปลี่ยนไปอย่างที่แจ้งให้ทราบครับ อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องเล่นใหม่อีกรอบก็ได้ อ้อ เกือบลืมไปสำหรับคนที่มี Steam Deck ตอนนี้ตัวเกมก็รองรับแล้วเรียบร้อยจ้า
No Game No Life !!