หลังจากที่ส่งสาวน้อย Aloy เข้ามาอยู่ในใจชาว PlayStation และรวมถึงการพอร์ตไปลงบน PC ด้วยกับ Horizon Zero Dawn การผจญภัยในโลกจักรกลอันกว้างใหญ่ที่กวาดรางวัลไปมากมาย ในที่สุด Horizon Forbidden West ซึ่งเป็นภาคใหม่ที่จะมาสานต่อเรื่องราวอันเข้มข้นก็พร้อมจะออกมาวางจำหน่ายให้แฟนๆ ได้เล่นกันแล้ว โดยได้ทางสตูดิโอ Guerrilla Games มารับหน้าที่ในการพัฒนาเช่นเดิม และพวกเค้าก็ไม่ทิ้งแฟนๆ ด้วยการพัฒนาเพื่อลงให้เล่นกันทั้งบน PlayStation 4 และ PlayStation 5 ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นการสั่งลาเจนเก่าไปด้วยเช่นกัน ทางเรามีโอกาสได้เข้าไปทดลองเล่นเกมภาคใหม่นี้บน PS5 มาเรียบร้อยแล้วก็เลยจะมารีวิวและเขียนความรู้สึกให้ได้อ่านกันครับ
เนื้อเรื่อง (ไม่สปอย)
เรื่องราวภายในเกมภาคนี้จะเป็นการต่อจากภาคแรกซึ่งเหตุการณ์ผ่านมา 6 เดือน (มีคัทซีนเล่าสรุปเรื่องราวในภาคแรกให้ดูตอนเริ่มเกมด้วย) โดยหลังจากที่ Aloy ได้จัดการกับ HADES สำเร็จแล้ว แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างยังไม่จบ เกิดโรคระบาดลึกลับขึ้นไปทั่วดินแดน พืชติดเชื้อกลายเป็นสีแดง ปลูกอะไรก็ตายหมดแถมยังทำให้สัตว์กับผู้คนเริ่มล้มตาย เรียกว่ากลายเป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ทำให้ทุกอย่างล่มสลายลงได้ ซึ่ง Aloy จะต้องออกเดินทางเพื่อหาหนทางในการแก้ไขและสืบหาสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ในภาคนี้เราจะได้เห็นพื้นที่ใหม่ๆ ของอเมริกาอย่าง Las Vegas หรือ San Francisco
สำหรับเนื้อเรื่องในภาคนี้นอกจากการสืบหาและแก้ไขเกี่ยวกับโรคระบาดแล้ว ตัวเราจะได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางเรื่องของสงครามกลางเมืองของเผ่าต่างๆ ที่เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก แย่งชิงอำนาจ หักหลังทรยศ ซึ่งกลายเป็นว่าเรื่องระหว่างเผ่าพวกนี้กลายมาเป็นเควสท์หลัก Story ภายในเกมไปเลย จนบางครั้งรู้สึกว่ามีช่วงที่น่าเบื่อเกิดขึ้นบ้าง เดินเรื่องช้าบ้าง กับประเด็นของเรื่องราวสัตว์จักรกลที่เป็นจุดเด่นจากในภาคแรกนั้นกลับหดหายไป ทั้งหมดกลับกลายเป็นว่าเควสท์เสริมหรือ Side Quest ต่างๆ กลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจของภาคนี้ไปเลย บางเควสท์สนุกมีที่มาที่ไปน่าติดตาม บทพูดหรือ NPC ที่เราพบเจอในพื้นที่ต่างๆ ดูมีชีวิตชีวาและให้ภารกิจที่น่าสนใจ โดยประเภทของภารกิจนอกเหนือจากภารกิจเนื้อเรื่องก็จะเป็นพวก ภารกิจรอง การตามหาของสะสม บุกสุสานโบราณคอลดรอน พื้นที่ล่า ค่ายกบฎ หลมสู้ประชิดตัว ไปจนถึงการแข่งขันขี่แมชชีนเลยทีเดียว
เกมเพลย์
ในส่วนของเกมเพลย์นั้นถ้าใครที่เคยเล่นภาคแรกมาแล้วจะทำความเข้าใจได้ไม่ยาก เกมนี้ยังคงเป็น Open World แบบ Action RPG สุดเทพที่สนุก มันส์ และตื่นเต้น แถมทางสตูดิโอ Guerrilla Games ยังได้ยกระดับและพัฒนาต่อยอดเกมเพลย์ให้ดีขึ้นไปอีกแบบต้องขอชมจริงๆ ครับ ทั้งนี้มีอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเรียกว่า Pullcaster มันจะเป็นที่ยิงเชือกเอาไว้สำหรับยิงเชือกไปยึดกับจุดต่างๆ ในแผนที่เพื่อให้เคลื่อนตัวได้รวดเร็วและสะดวกในหลายๆ สถานะการณ์ เช่นการยิงขึ้นที่สูงเพื่อเคลื่อนที่ หรือการยิงเพื่อหามุมได้เปรียบในการต่อสู้กับเอาไว้หลบหนีศัตรู เป็นต้น ส่วนอีกอุปกรณ์ใหม่คือ Shield-Glider หรือเครื่องร่อนให้เรากางเมื่อเวลาโดดจากที่สูงอย่างภูเขา ซึ่งทั้งสองอุปกรณ์ใหม่นี้จะช่วยให้มีทางเลือกในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นกับสามารถนำไปใช้ในการแก้ปริศนาได้อีกต่างหาก แถมในช่วงหลังยังมีอุปกรณ์สำหรับช่วยในการดำน้ำด้วยตามที่เราเห็นจากในตัวอย่างมาแล้ว
อาวุธในการต่อสู้หลักๆ แล้วจะยังคล้ายกับภาคแรกเช่นพวกธนูต่างๆ กับกระสุนพวกธาตุ หรือจะเป็นพวกเครื่องยิงกับดัก เครื่องยิงปืน หนังสติ๊ก เป็นต้น โดยอาวุธจะมีเพิ่มมาใหม่คือถุงมือฉีกทำลายที่เป็นเหมือนการขว้างใบเลื่อยออกไปฉีกกระชากแล้วเลี้ยวกลับมาหาตัวเรา กับสิ่งที่ชอบมากอีกอย่างคือหอกสำหรับเอาไว้ปาเพื่อปักที่เป้าหมายและทำความเสียหายอย่างรุ่นแรง นอกจากนี้ทางทีมพัฒนายังได้มีการทำระบบ Skills tree ใหม่ด้วย โดยภาคนี้จะมีแยกให้อัปอย่างชัดเจนซึ่งจะแบ่งออกเป็น 6 สาย คือ นักรบ, นักทำกับดัก, พราน, ผู้รอดชีวิต, เจาะเกราะ และ แมชชีนมาสเตอร์ และทุกสายจะมีสกิลท่าพิเศษที่เวลาใช้จะมีฉากการใช้ท่าแอ็กชั่นสุดเท่ตัดให้ดูกันด้วย เช่นการใส่อุปกรณ์พิเศษลงในอาวุธ หรือการทาหน้า เป็นต้น
ใครที่ชอบเรื่องของศัตรูที่เป็นจักรกลในภาคนี้จัดเต็มสุดๆ มีแมชชีนให้ตามเก็บข้อมูลและต่อสู้ด้วยกว่า 43 ประเภท มาหมดทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ พวกที่เป็นไดโนเสาร์ก็มีตั้งแค่ขนาดเล็กไปจนมหึมา มีงูยักษ์สุดโหดที่เราเห็นจากในตัวอย่างด้วย รวมไปถึง แมมมอธเหล็กอย่างหนากับจระเข้ยักษ์ที่ภาคนี้เพิ่มความเดือดด้วยการดำไปเจอพวกมันในน้ำด้วย โดยถือว่าการต่อสู้กับพวกจักรกลในภาคนี้มีความโหดหินขึ้นอย่างมาก บางประเภทรวดเร็วและมีลูกเล่นต่างๆ บางประเภทล่าเป็นฝูงอีกต่างหาก ทำให้ท้าทายความสามารถของเราในการคิดและจัดการแผนทั้งเรื่องการ Focus สแกนหาจุดอ่อนของศัตรู เตรียมอาวุธให้เหมาะกับการโจมตีของแต่ละตัวซึ่งแน่นอนพวกมันจะแพ้กระสุนธาตุเช่นเคย แต่บางคนก็เลือกที่จะเล่นแบบย่องเงียบ วางกับดัก หรือลอบจู่โจมได้เช่นกัน
กราฟิก
งานภาพ Graphics ของเกมนี้ใช้ Decima Engine ที่เคยใช้อยู่ในเกม Death Stranding แต่คาดว่าน่าจะมีการปรับปรุงเวอร์ชั่นขึ้นกว่าตอนนั้นแน่นอน บอกเลยว่าทั้งเรื่องของภาพ ความละเอียดพื้นผิว แสงเงา หรือโมเดลตัวละคร อาวุธ ชุด รวมไปถึงระบบฟิสิกส์ ทุกอย่างสวยงามและอลังการมากๆ ให้เราได้เห็นโลก Open World ที่สวยงามถูกใจสายถ่ายรูปแน่นอน สามารถรีดเร้นประสิทธิภาพของเครื่อง PS5 ออกมาได้แบบสุดจริงๆ โดยใน PS5 นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเน้น performance ประสิทธิภาพในการเล่น ซึ่งจะได้เฟรมเรตอยู่ที่ 60 FPS ลื่นๆ หรือจะไปเน้นกราฟิกความละเอียดสูงระดับ 4K แต่เฟรมเรตจะอยู่ที่ 30 FPS ซึ่งอย่างหลังนี่ลองเล่นดูแล้วมันดูกระตุกๆ ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ครับ ส่วนพวกฟีเจอร์ของจอย PS5 พวกการสั่นต่างๆ ทำได้ดี การกดปุ่ม R2 สำหรับง้างธนูกับอาวุธต่างๆ ก็มีความหน่วงที่สมจริง
อีกอย่างที่ต้องพูดถึงคือเรื่องภาษาไทยในเกมนี้ที่รองรับหมดทั้งเมนู UI ต่างๆ ไปจนถึงซับไตเติลที่โดยรวมทำออกมาได้ดี ใช้ฟ้อนอ่านง่ายสวยงาม การแปลก็ทำออกมาได้ดีเข้าใจง่ายชวนให้มีอารมณ์ร่วมในการติดตามเนื้อเรื่อง แต่คุณภาพในการแปลยังรู้สึกว่าด้อยกว่า Ghost of Tsushima กับในช่วงเวลาที่เล่นซึ่งยังเป็นช่วงก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายนั้นมีพวกสระลอยหรือการแปลบางคำที่ไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ้าง ซึ่งเมื่อเกมออกแล้วคาดว่าจะได้รับการอัปเดตอย่างแน่นอน รวมถึงพวกบั๊กที่เจอในช่วงทดสอบด้วย
สรุปภาพรวม
โดยรวมแล้วตัวเกม Horizon Forbidden West ถือเป็นเกมที่ต้องเล่นและห้ามพลาดอย่างยิ่งครับ มันทั้งสวย สนุก และมีอะไรให้ผู้เล่นได้เข้าไปผจญภัยอีกมาก ซึ่งเรายังกล่าวไม่หมดในบทความรีวิวนี้ ยกตัวอย่างเช่นมินิเกมเสริมที่เป็นเหมือนกับการเล่นหมากรุกหุ่นยนต์ก็เล่นเพลินๆ ใช่ย่อย พื้นที่ในเกมกว้างใหญ่มาก มีพื้นที่สวยๆ ให้สำหรับคนชอบถ่ายรูปได้ฟินกันเพียบ ส่วนเนื้อเรื่องเองเมื่อมีภาษาไทยให้อ่านแล้วก็ยิ่งทำให้เราได้ตามลุ้นและสนุกไปกับความเข้มข้นผสมไซไฟที่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับเงินแน่นอน
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว