[Review] Dead Island 2 ซัดแหลกหวดซอมบี้ในเมืองใหญ่สุดระทึก

ยอดเข้าชม 84

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นเวลาร่วมสิบปีที่แฟนๆ ของเกมอัดแหลกซัดซอมบี้สุดสะใจอย่าง Dead Island 2 ต้องรอคอยภาคใหม่นี้กันนานแสนนานแบบนี้ ซึ่งหลักๆ ก็เกี่ยวกับการพัฒนานั่นแหละครับ เอาเป็นว่ายังไงก็ตามตอนนี้ในที่สุดมันก็ออกมาให้พวกเราได้เล่นกันแล้ว แถมมีอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่บอกเลยว่ายังคงความมันส์และความสะใจในการหวดซอมบี้กันเหมือนเดิมและเพิ่มความโหดไปอีกหลายขั้น ทั้งนี้ Dead Island 2 พัฒนาโดย Dambuster Studios และมีทาง Deep Silver รับหน้าที่ในการดูแลจัดจำหน่าย

เรื่องราวคราวนี้แค่เริ่มมาก็ต่างจากภาคก่อนอย่างสิ้นเชิงเพราะมันไม่ได้ดำเนินเรื่องอยู่แค่เพียงบนเกาะเหมือนกับชื่อเกมอีกต่อไป แต่รอบนี้มหันตภัยร้ายมันได้มุ่งหน้ามาสู่เมืองใหญ่อย่าง Log Angeles มหานครแห่งสรวงสวรรค์ของอเมริกาแล้วนั่นเอง แต่มันไม่ได้มีแค่ซอมบี้เท่านั้นเพราะมันมาพร้อมกับการเกิดภัยพิบัตใหญ่อย่างแผ่นดินไหวด้วย รัฐบาลมีการสั่งอพยพผู้คนครั้งใหญ่และประกาศให้เมืองเป็นพื้นที่กักกันเพื่อจัดการกับไวรัส ตัวเราจะได้เล่นเป็นผู้รอดชีวิต 1 ใน 6 คน ที่กำลังจะขินเครื่องบินเพื่ออพยพ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นซึ่งหนึ่งในคนที่อยู่บนเครื่องบินนั้นติดเชื้อจนเกิดความวุ่นวายและทำให้เครื่องบินตก งานนี้เป้าหมายของเราก็คือจะต้องทำทุกทางเพื่อให้มีชีวิตรอดไปให้ได้

สำหรับตัวละครทั้ง 6 นั้นจะมีรูปแร่างหน้าตาและความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ประกอบไปด้วย Jacob, Bruno, Carla, Dani Ryan และ Amy โดยจะมีคำอธิบายและค่าสเตตัสให้ได้ดูกันแบบเข้าใจง่ายๆ เช่นบางตัวจะเน้นถึก บางตัวโจมตีเร็ว ส่วนบางตัวจะคล่องแคล่วว่องไว เป็นต้น รวมไปถึงสกิลติดตัวพื้นฐานของแต่ละคนก็ต่างกันไปด้วย ใครชอบเล่นสไตล์ไหนก็ลองเลือกดูได้ครับ ความพิเศษส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือตัวละครของเราจะไม่ได้เป็นคนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังพบว่ามีภูมิคุ้มกันและยังสามารถใช้พลังพิเศษจากเชื้อซอมบี้ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวได้อีกด้วย

รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะยังเป็นเกม Action RPG ผ่านมุมมองแบบ FPS แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากภาคแรกคือตัวเกมไม่ได้เป็น Open World อีกต่อไป แต่จะมีการแบ่งเป็นโซนๆ ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่และสามารถเชื่อมต่อไปยังโซนอื่นๆ ได้รวมถึงมีระบบ Fast Travel และยังสามารถย้อนกลับไปมาแต่ละโซนได้ตลอดด้วย ตัวเกมจะมีภารกิจให้ผู้เล่นได้ทำกันมากมายทั้งในส่วนของเนื้อเรื่อง หรือเควสท์เสริมแยกย่อยต่างๆ แต่ก็พบว่ามันไม่ค่อยหลากหลายหรือมีอะไรที่น่าสนใจมากซักเท่าไหร่ เนื้อเรื่องก็ยังดูธรรมดาไม่ค่อยอลังหรือน่าติดตามเท่าภาคแรก และเนื่องจากตัวละครมีให้เลือกถึง 6 ตัว ดังนั้นแต่ละตัวก็มีพวกบทพูดที่ต่างกันออกไปด้วย

เมื่อเราทำภารกิจหรือจัดการกับซอมบี้ก็จะมีเรื่องของ exp การเก็บเลเวล กับการเลือกใช้งานสกิลด้วย ซึ่งเลเวลของศัตรูนั้นจะขึ้นตามเลเวลของผู้เล่นด้วย ซึ่งก็ท้าทายอยู่ไม่น้อยเพราะถ้าเราเก่งขึ้นนั่นก็คือซอมบี้จะเก่งขึ้นตามไปด้วย สำหรับอาวุธในเกมนี้จะมีทั้งแบบระยะประชิดอย่างพวกมีด ดาบ ขวาน ค้อน เป็นต้นและอาวุธระยะไกลก็จะมีพวก ปืน ระเบิด อาวุธขว้าง เป็นต้น ซึ่งในเกมบอกเลยยังมีอีกเพียบให้ผู้เล่นได้ค้นหา และเรายังสามารถที่จะอัพเกรดความสามารถใส่ MOD หรือ Perks ให้กับมันได้อีกด้วย เช่นเพิ่มพลังโจมตี เพิ่มค่าความทนทาน หรือแม้กระทั่งทำให้เกิดพวกสถานะอย่าง ไฟไหม้ ไฟฟ้าช๊อต ติดพิษ เลือดไหล เป็นต้น โดยใช้พวกวัตถุดิบที่เราเก็บได้ทั่วไปจากตามฉาก การจัดการกับศัตรู หรือการทำภารกิจและซื้อจาก NPC นั่นเอง

นอกจากอาวุธแล้วตัวเกมยังมีในเรื่องของสกิลที่จะมาเป็นแบบการ์ดให้เราได้เลือกมาติดตั้งให้กับตัวละคร ซึ่งจะมีความสามารถให้ใช้เยอะมาก แต่ทั้งหมดจะอิงกับสกิลพื้นฐานของตัวละคร ไม่ว่าจะพวกการกดท่าป้องกัน การกระโดดถีบ การใช้อาวุธขว้าง หรือแม้กระทั่งท่าพิเศษ Fury Mode ให้เราได้ใช้พลังของซอมบี้ การ์ดสกิลเหล่านี้จะได้มาจากการทำภารกิจเนื้อเรื่อง การปลดล๊อคเลเวล หรือการหาเจอจากในฉาก เป็นต้น การ์ดสกิลจะแบ่งเป็น 4 ประเภทคือ Abilities, Survivor, Slayer และ Numen ใครชอบสไตล์ไหนก็เลือกปรับเปลี่ยนกันได้ตามใจเลย

พูดถึงการหวดซอมบี้ในเกมนี้ถือเป็นความสะใจสุดๆ เพราะมันทั้งหนักหน่วง เลือดสาดท่วมจอ ไส้ทะลัก และชิ้นส่วนหลุดกระเด็นแบบโหดร้ายชวนแหวะกันทั้งเกมเลยทีเดียว ซึ่งเชื่อเลยว่าใครที่เป็นแฟนของเกมนี้มาก่อนจะต้องชอบแน่ๆ ส่วนพวกโมเดลซอมบี้ก็ทำออกมาได้ดีมาก เพราะว่ากราฟิกของเกมนี้จัดว่าสวยงามและสมจริงสุดๆ เปิดช่วงต้นเกมมาเราก็จะได้เห็นถึงความสมจริงของฉากและบรรยากาศของเมืองที่โดนซอมบี้บุกได้เป็นอย่างดี ทีมงานใส่ใจในการออกแบบฉากของ Log Angeles ในแต่ละสถานที่ได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นย่านคนรวย สตูดิโอถ่ายหนัง ชายหาดนอกเมือง หรือแม้แต่ท่อระบายน้ำที่ชวนแหวะและน่ากลัวไปในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะบรรยากาศเวลาช่วงกลางคืนนี่กลายเป็นเกมสยองขวัญชวนระทึกไปเลย ไม่ว่าจะเสียงร้องของซอมบี้ ฉากกับบรรยากาศแถมด้วยจังหวะ Jump Scare ที่มาแต่ละทีหัวใจแทบวาย

สรุปภาพรวมของเกมนี้แล้วส่วนตัวถือว่าชอบและสะใจไปกับการหวดซอมบี้จนเลือดท่วมจออย่างมาก และการใช้พวกธาตุกับสภาพแวดล้อมในฉากมาใช้ในการจัดการกับซอมบี้ด้วยก็เป็นอะไรที่ท้าทายดี ส่วนฉากที่ไม่ได้เป็น Open World แต่เลือดที่จะแบ่งเป็นโซนๆ ก็ถือว่าไม่ติดอะไรเพราะแผนที่แต่ละโซนนั้นใหญ่และมีความซับซ้อนพิสมควร จะติก็ตรงภารกิจที่ไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่และเนื้อเรื่องดูธรรมดาไปนิด นอกจากนี้ตัวเกมยังใส่ระบบ Co-op มาให้สำหรับคนที่ไม่อยากลุยคนเดียว อยากเล่นกับเพื่อนหรืออยากเล่นแบบออนไลน์เข้ามาด้วย เอาเป็นว่าถือเป็นเกมซอมบี้ที่ทำออกมาได้คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนครับ ใครที่สนใจก็ลองไปหาซื้อมาเล่นกันได้แล้วตอนนี้