ออกมาให้เราได้เล่นกันซักพักแล้วสำหรับ Crysis Remastered Trilogy หรือการนำเอาเกม Crysis ในอดีตทั้ง 3 ภาคมามัดรวมให้เล่นกันในชุดเดียว พร้อมกับมีการปรับปรุงตัวเกมทั้งในเรื่องของกราฟิกและประสิทธิภาพของเกมให้ดีขึ้น ซึ่งทางเรามีโอกาสได้ลองเล่นทั้งสามภาคนี้ในเกมเวอร์ชั่น PS4 แต่เล่นผ่านเครื่อง PS5 ในระบบ Backwards Compatibility โดยเป็นการแยกโหลดมาติดตั้งทีละภาค ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูรายละเอียดและรีวิวเกม FPS ระดับตำนานเกมนี้มาให้อ่านกันครับ
Crysis Remastered Trilogy เป็นการรวมเอาเกมยิง FPS ชื่อดังในอดีตทั้ง 3 ภาคมาให้เล่นกันอีกครั้งในแผ่นเดียว ประกอบไปด้วย Crysis , Crysis 2 และ Crysis 3 ซึ่งทุกภาคผ่านการปรับปรุงใหม่ Remastered มาให้ลุยกันอีกรอบ ซึ่งถ้าใครเคยเล่นบน PC มาก่อนในอดีตย้อนหลับไปซักปี 2007 จะรู้กันว่าการจะเล่นเกมนี้ได้ต้องยกเครื่องคอมพิวเตอร์กันแบบจัดเต็มและใช้สเปคในการเล่นที่สูงมาก จนบางคนอาจจะไม่เคยได้เล่นเกมนี้จบหรือจำใจได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เพราะเครื่อง PC เล่นไม่ไหวกลัวระเบิดซะก่อน แต่พอมาในวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีเลยที่จะได้กลับไปเล่นเกมนี้กันอีกครั้ง แถมลื่นไหลและมีกราฟิกที่สวยงามคมชัดขึ้นอีกด้วย
รายละเอียดเรื่องราวของทั้ง 3 ภาคแบบย่อ
Crysis Remastered:
ภารกิจที่ตอนแรกเป็นแค่ภารกิจช่วยชีวิตอันแสนเรียบง่ายที่ภายหลังกลับกลายมาเป็นสนามรบสำหรับสงครามครั้งใหม่เมื่อฝูงเอเลี่ยนบุกเข้าโจมตีหมู่เกาะเกาหลีเหนือ ผู้เล่นจะได้สวมบทเป็นสุดยอดทหาร Nomad และได้สวมชุด Nanosuit อันทรงพลัง ซึ่งมอบความเร็ว ความแข็งแกร่ง ชุดเกราะ และการซ่อนตัวให้กับคุณ โดยมีคลังแสงอาวุธให้ลุยแบบจัดเต็มและสามารถปรับแต่งกลยุทธ์และอุปกรณ์เพื่อเอาชนะศัตรูในโลกแซนด์บ็อกซ์ขนาดยักษ์
Crysis 2 Remastered:
เอเลี่ยนกลับมาสู่โลกที่ถูกทำลายด้วยหายนะทางสภาพอากาศ ขณะที่ผู้บุกรุกถล่มนิวยอร์ก พร้อมทั้งเริ่มการโจมตีที่อาจเป็นการทำลายล้างมวลมนุษยชาติจนสูญสิ้น มีเพียงคุณเท่านั้นที่มีเทคโนโลยีที่จะนำทัพตอบโต้ได้ คุณจะได้สวม Nanosuit 2.0 และปรับแต่งชุดและอาวุธของคุณแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งปลดล็อกความสามารถอันทรงพลังใหม่ๆ ในการต่อสู้เพื่อกอบกู้มนุษยชาติ
Crysis 3 Remastered:
หวนกลับมาต่อสู้ในฐานะสุดยอดทหาร Prophet การค้นหาเอเลี่ยน Alpha Ceph ยังคงดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้คุณต้องเปิดโปงความจริงเบื้องหลังบริษัท C.E.L.L. ซึ่งได้เปลี่ยนนิวยอร์กซิตีให้กลายเป็นป่าดิบชื้นขนาดใหญ่ในเขตเมืองที่มีนาโนโดมขนาดมหึมาคอยคุ้มครอง ตะลุยต่อสู้ในเขตทั้ง 7 ที่แตกต่างกันและกวาดล้างศัตรูด้วยพลังอันป่าเถื่อนโดยใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่าของ Nanosuit หรือจะเน้นการซ่อนตัวเพื่อทำตามเป้าหมายเพื่อกอบกู้มนุษยชาติอย่างเงียบๆ ก็ได้ โดยมี Predator Bow ใหม่อันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวในการจัดการศัตรู
หลังจากที่ได้ลองเล่นทั้ง 3 ภาคแล้วพบว่าสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือกราฟิกของเกมที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีการปรับปรุงเรื่องความคมชัด รายละเอียดเทกเจอร์หรือพวกแสงเงา ฉากพายุฝนกระหน่ำ ซึ่งบนคอนโซลนี้สามารถปรับได้ทั้งโหมดกราฟิกแบบ Quality เน้นภาพสวยแสดงผลที่ 60fps หรือ Performance เน้นเล่นเกมแบบลื่นไหล แสดงผลที่ 60fps 1080P โดยมีแค่เพียงภาคแรกที่มีตัวเลือก RacTracing ให้เลือกได้ และแน่นอนว่าบน PS5 นี้ทุกโหมดรองรับ HDR กับการโหลดฉากที่รวดเร็ว
จุดสังเกตของการเล่นบน PS5 พบว่ามีบางฉากหรือช่วงจังหวะที่เกมมีการเซฟจะพบอาการกระตุกให้เห็นบ้างชั่วระยะสั้นๆ ทั้ง 3 ภาค ซึ่งถ้าใครสนใจก็แนะนำให้เล่นไล่เรียงไปทีละภาคอยู่แล้ว แน่นอนเรื่องกราฟิกรายละเอียดในเกมภาค 2 กับ 3 จะดีขึ้นกว่าภาคแรกแบบก้าวกระโดด ส่วนเนื้อเรื่องในแต่ละภาคนั้นเป็นการคงแบบเดิมเอาไว้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
โดยรวมแล้วถือว่า Crysis Remastered Trilogy มีความคุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากกลับไปรำลึกความหลังหรือคนที่ยังเล่นไม่จบจากในอดีต เพราะตัวเกมมัดรวมมาแล้ว 3 ภาคในราคาที่ไม่แพงเลย เพียงแต่ว่าตัวเกมได้ตัดโหมด Multiplayer ออกไปให้เล่นลุยเนื้อเรื่องกันล้วนๆ ถ้าถามว่าเกมมันเก่าตั้งเป็น 10 ปีมาแล้วจะยังน่าเล่นหรือไม่บอกเลยว่าแม้ระบบบางอย่างจะดูเชยๆ ไปบ้างแต่ก็ยังถือว่าเป็นเกม FPS ที่มันส์และมีเนื้อเรื่องเข้มข้นเหมาะกับในยุคปัจจุบันอยู่ไม่น้อย
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว