ทีมพัฒนาสตูดิโออินดี้ Broken Spear ส่งเกม Beneath Oresa มาเปิดให้ได้เล่นกันบน PC Steam ในช่วง Early Access ไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ตัวเกมมีแผนจะวางจำหน่ายเวอร์ชั่นเต็มสมบูรณ์ให้เล่นกันในช่วงเดือนพฤษภาคม 2023 ซึ่งความน่าสนใจของเกมนี้ก็คือรูปแบบการเล่นที่เป็น Roguelike deckbuilding นั่นเอง วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จัเกมนี้พร้อมกับบอกเล่าความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองเล่นไปแล้วมาให้อ่านกันครับ
Beneath Oresa มาด้วยแนวคิดของการผสมผสานการเล่นระหว่างการ์ดกับแนวทางการเล่นแบบ Roguelike โดยมีฉากหลังเป็นการต่อสู้แบบ 3D กราฟิกเซลเฉดแบบการ์ตูน และถูกออกแบบมาให้ได้อารมณ์ของเกม Action RPG แต่จริงๆ แล้วการเล่นจะไปเน้นหนักอยู่ที่เรื่องของการ์ดและการตะลุยผ่านดันเจี้ยนไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง เริ่มต้นเกมจะให้เราเลือกตัวละครฮีโร่จากที่มีอยู่ทั้งหมด 3 ตัว คือ Hectos, Doltar และ Nereide ซึ่งแต่ละตัวจะมีความแตกต่างกันในเรื่อง Hero Cards และความสามารถหลักๆ ของการ์ดที่อยู่ในเดค หลังจากเลือกตัวละครแล้วเราจะได้เลือกผู้ติดตามหรือ Companion ด้วย โดยผู้ติดตามเองก็จะเป็นตัวละครที่เสริมความสามารถพวก Abilite, passive buffs ให้กับฮีโร่หลัก
ตัวเกมจะให้เราได้ตะลุยดันเจี้ยนไปตามทางแบบเส้นตรงโดยการผ่านไปทีละสเตจ ซึ่งจะมีทางเลือกแยกย่อยอยู่บ้างในบางช่วง แต่ละสเตจจะให้เราได้สู้กับกลุ่มศัตรูที่มีระยะใกล้กับไกล โดยมุมมองของการเล่นจะเป็นแบบหันด้านข้าง เราสามารถเลือกศัตรูที่จะโจมตีได้และการโจมตีก็จะเป็นเรื่องของการ์ดเกมทันที การ์ดทุกใบที่อยู่ตรงหน้าจอเราจะเห็นว่ามีตัวเลขสีฟ้าอยู่ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนแต้มหรือถ้าให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือมานาที่ต้องใช้ โดยจำนวนที่ใช้ได้ในแต่ละเทิร์นจะบอกเป็นตัวเลขอยู่ใกล้ๆ กับหลอดเหลือด้านซ้ายของจอ ซึ่งเริ่มต้นจะเป็น 3/3 ยกตัวอย่างถ้าเราใช้การ์ดที่มี 1 มานา พอใช้ไปแล้วตัวเลขในเทิร์นจะเหลือ 2/3 เป็นต้น หากใช้จนเหลือ 0 หรือต้องการจบจะเทิร์นก็ให้กดที่ปุ่ม >> ตรงด้านขวาเพื่อจบเทิร์น
การ์ดแต่ละใบจะมีความสามารถที่ต่างกัน ทั้งการโจมตี การบัฟ การ์ดสนับสนุน การเพิ่มโล่ป้องกัน หรือการใช้เพิ่มเกจเพื่อใช้ท่า Counter โจมตีสวนกลับ เป็นต้น โดยอ่านจากคำอธิบายในการ์ดแต่ละใบได้ เป้าหมายเราคือจัดการศัตรูให้หมดก็จะผ่านสเตจนั้นๆ แล้วเราก็จะเคลื่อนที่ต่อไปยังสเตจถัดไป โดยเมื่อจบสเตจนั้นๆ ตัวเกมจะให้เราได้เลือกการ์ดสำหรับอัพเกรดความสามารถ ปลดล๊อคเลือกการ์ดใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งจุดพักสำหรับฮีลเลือด HP ทีนี้ความท้าทายแบบ Roguelike คือหากตัวละครเราเลือดหมดจนตายก็จะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แล้วแถบเลือดเราที่มีอยู่นี่คือใช้อันเดิมตั้งแต่ต้นไปจนจบเกมด้วย ดังนั้นช่วงแรกๆ ก็อาจจะตายเกิดวนเวียนใหม่อยู่ซักพักจนกว่าจะจับทางและเรียนรู้การเล่นได้เข้าใจ โดยค่าเลือด HP นี้จะสามารถเพิ่ม Max สูงสุดได้ตามจุดพักในบางสเตจ และสามารถฮีลเพิ่มเลือดได้ตามที่บอกไปข้างต้น
สรุปภาพรวมหลังจากที่เริ่มเล่น Beneath Oresa ไปแล้วบอกตรงๆ ว่าค่อนข้างงง แต่พอได้ลองตายเกิดวนเวียนตามแบบ Roguelike แล้วก็ค่อยๆ เข้าใจการเล่นขึ้น และกลายเป็นว่าเล่นเพลินๆ ไปซะงั้น ทั้งการคิดในการเลือกใช้การ์ดต่างๆ การเลือกอัพเกรดการ์ดตอนจบสเตจ หรือพวกการตัดสินใจว่าจะเลือกบัฟ อัพเกรดการ์ดหรือเลือกฮีลเพิ่มเลือดดี เป็นต้น ซึ่งจำนวนดันเจี้ยนให้ลุยในตอนนี้ยังน้อยอยู่แต่อย่าลืมว่ามันเป็นช่วง Early Access เท่านั้น ตัวเกมยังมีอะไรที่จะพัฒนากับอัพเดทเข้ามาอีกเพียบแน่นอน ถ้าใครสนใจก็ลองไปหาเล่นกันดูได้ครับ บนหน้าร้านค้า Steam ล่าสุดวางจำหน่ายอยู่ในราคา 319 บาท เท่านั้น
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว