การแข่งขัน E-sports ในบ้านเราตอนนี้ถือว่ามาถูกที่ถูกทางขึ้นเรื่อยๆ หลายฝ่ายเริ่มหันมามองวงการเรามากขึ้น นั่นเพราะเด็กไทยไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมายมาย แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ ไอ้เราก็หวังว่ามันคงมีสักวันอะนะ ไม่ปีนี้ ปีหน้า หรืออีกกี่สิบปีก็เถอะ
การแข่งขันทุกครั้งไม่ว่าจะทั้งไทยหรือต่างประเทศ สิ่งที่มักพูดถึงกันมากที่สุดนั่นคือเงินรางวัล ถ้าบ้านเราแต่ก็ก็หลักพันหลักหมื่น แชมป์ภาคก็น้อยหน่อย ส่วนแชมป์ประเทศก็ประมาณ 30,000 บาท เรทนี้ใช้มาหลายเกมหลายรายการ แต่พอยุคหลัง บอกตามตรงว่าแชมป์ประเทศ 30,000 ยังน้อยไป เดี๋ยวนี้บางค่ายทุ่มแข่งไม่อั้น แจกเงินรางวัลหลักแสนกันหมดแล้ว จนบางทีผมเองยังคิดว่านี่เราเกิดเร็วไปใช่มั้ย แต่ก่อนแค่แข่งตามร้านเกมได้เงินมาพันกว่าบาทก็ยิ้มแก้มปริแล้ว แต่เดี๋ยวนี้บอกเลยว่าแข่งเกมทำมาหากินยังได้ ยิ่งระดับโลกด้วยแล้วหายห่วง รางวัลสูงสุดที่ทำได้ก็คือการแข่งขัน The International 2015 ของเกม DOTA2 ที่แชมป์รับไปเหนาะๆ 6,052,026 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 207,000,000บาท ส่วนรางวัลรวมทั้งรายการอยู่ที่ 16,820,590 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 575,000,000 บาททีเดียว
เงินรางวัลมากมายขนาดนี้ใครละเป็นคนออก แน่นอนว่าไม่ใช่ของวาล์วเองทั้งหมด แต่เงินส่วนใหญ่มาจากชาว DOTA2 ที่ทางวาวล์วใช้ระบบที่เรียกว่า Prize Pool คือการขายไอเทมแล้วปันเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ของไอเทมชิ้นนั้นไปเป็นเงินรางวัลของการแข่งขัน นั่นก็คือ ยิ่งมีเกมเมอร์ซื้อมากเท่าไหร่ เงินรางวัลของการแข่งขันก็จะมากขึ้นเท่านั้น ตรงนี้เลยเป็นเหตุให้ DOTA2 เป็นเกมที่มีเงินรางวัลของการแข่งขันมากที่สุดในโลก ต้องขอปรบมือให้กับความคิดนี้จริงๆ
และก็ไม่อยากจะเชื่อเลยครับ ที่จะมีผู้ให้บริการในบ้านเราเอาแนวคิดนี้มาใช้ กับบริษัท Electronics Extreme ที่ผลักดันการแข่งขันเกม Infestation กับรายการ EXL 2015 Presented by UNITRY l ASUS ซึ่งงานนี้จะเน้นไปที่เกม Infestation เพราะเงินรางวัลจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ เงินรางวัลหลักของรายการ 100,000 บาท และเงินรางวัลจากสปอนเซอร์หลัก ASUS อีก 100,000 บาท รวมเป็น 200,000 บาท ซึ่งนั่นมันก็มากมายอยู่แล้ว ประกอบกับจำนวนเงินที่ได้จากระบบ Prize Pool ก็มากจนขนาดที่ว่าเอาไปเที่ยวชิลๆ ได้หลายเดือนทีเดียว
Prize Pool ของทาง Electronics Extreme จะใช้ระบบการขายกล่องไอเทม ที่เปิดมาเจออาวุธเทพชนิดต่างๆ ที่เรียกกันว่า Infestation Prize Pool SET ซึ่งทางทีมงานจะนำเอารายได้ส่วนหนึ่งจากการขาย ไปเป็นเงินรางวัลในส่วนของ Prize Pool เริ่มขาย SET#1 ไปเมื่อเดือน มิถุนายน จน SET สุดท้ายมาหยุดขายไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้นขายไป 5 SET ซึ่งเพียงแค่เปิดขาย SET แรก ก็สามารถทำเงินรางวัลสูงถึง 1,687,300 บาท เรียกได้แค่ออกตัวก็แรงปรี๊ดสะใจกันเลยทีเดียว
จากการขาย Infestation Prize Pool ทั้ง 5 SET ทาง Electronics Extreme สามารถทำยอดเงินรางวัลไปได้ถึง 3,204,490 บาท โดยเงินรางวัลส่วนนี้ ในส่วนของเงินสดที่เป็นรางวัลในการแข่งขันเกม Infestation นั้นจะแบ่งเป็นเงินรางวัล Prize Pool (ตามสัดส่วนอันดับ) และเงินรางวัลสมทบจาก ASUS อีกจำนวน 100,000 บาท ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ แบ่งให้กับทีมที่เข้าแข่งขันทุกทีมคือ แชมป์เอาไปเลย 50% จากจำนวนเงินทั้งหมดก็จะได้ประมาณ 1,102,245 บาท รองแชมป์ได้ 25% อันดับ 3 ได้ 10% อันดับ 4 ได้ 5% ส่วนทีมที่ตกรอบอีก 4 ทีมก็ยังได้อีกทีมละ 2.5% หรือประมาณ 50,112 บาท มากกว่าแชมป์ของบางรายการเสียอีก
การทำระบบ Prize Pool บอกกันตามตรง ไม่มีใครเสีย มีแต่ได้กันทุกฝ่าย เริ่มตั้งแต่เกมเมอร์ที่ซื้อไอเทม จะได้ไอเทมดีๆ ที่ไม่มีขายที่ไหนเอาไปใช้กัน ค่ายเกมได้เงินส่วนหนึ่งเป็นรายได้เข้าบริษัท และอีกส่วนหนึ่งเอาไปเป็นเงินรางวัล ส่วนทีมที่เข้าแข่งขันก็ได้เต็มๆ คือได้เงินรางวัลจากส่วนนี้ไปแบบไม่ต้องเสียอะไร นอกจากบางรายที่เข้าไปซื้อ Infestation Prize Pool SET กับเขาด้วยเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เสียอะไร เพราะสุดท้ายมันก็ลงเอยที่เงินจากการซื้อครั้งนั้นมันจะหวนกลับไปเข้ากระเป๋าตัวเองในท้ายที่สุด ซึ่งการทำระบบนี้ทำให้นึกถึงสำนวนที่ว่า “อัฐยายซื้อขนมยาย” คือการนำเอาเงินจากเกมเมอร์ที่ซื้อไอเทมของตัวเกม มาเป็นเงินรางวัลการแข่งขัน ที่สุดท้ายแล้วเกมเมอร์ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ ต้องขอปรบมือในความกล้า ที่จะเอาแนวคิดของต่างประเทศ มาปรับใช้ให้เข้ากับเกมเมอร์ชาวไทย ซึ่งท้ายที่สุดผลลัพท์ที่ออกมาทะลุเป้า ใครจะมองยังไงผมไม่รู้ แต่แบบนี้บอกตามตรงว่าชอบมาก การที่ให้เกมเมอร์เข้าไปมีส่วนร่วมกับเงินรางวัล ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย ผลลัพท์ที่ออกมามันใหญ่และมีพลัง นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า ทำเพื่อวงการอย่างแท้จริง