แพทช์ 7.0 ที่มาพร้อมชื่อแพทช์ว่า The New Journey มันจะถูกอัพเข้าเกมในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของแพทช์ 7.0 นั้นช่างมีมากมายเสียเหลือเกิน ที่เรียกกันว่าการพัฒนาของตัวเกมแบบเต็มรูปแบบ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นมือเก๋าชั่วโมงบินสูงมากก็ตาม ต่างก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ข้อมูลการอัพเดทครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เราก็เลยทำแบบฉบับย่อส่วน นำเฉพาะส่วนที่สำคัญเป็นการสรุปมาพูดถึงให้ฟังกัน ซึ่งในแต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่แนะนำว่าควรจะรู้ก่อนเข้าเล่นเกม หากอ่านเนื้อหาในนี้ทั้งหมดก็เพียงพอให้ไปถูไถรายละเอียดส่วนที่เหลือภายในเกมผ่านการเล่นจริงได้ (แต่หากจะลง Ranked แนะนำให้อ่านแบบเต็มไปเลยจะดีกว่า) ส่วนใครที่สนใจการเปลี่ยนแปลงนี้ในฉบับเต็มหรือข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านกันได้ที่ http://www.tgpl.in.th/mainpage/11052/
ฮีโร่ใหม่ Monkey King
ดาวเด่นดวงใหม่ถือกำเนิด เนื่องด้วยตัว Monkey King นี้เป็นสาย Agility เล่นเป็นตัว Carry ได้ แต่กลับมีสกิลแบบครบเครื่อง Stun ศัตรูเป็นหมู่ มีสกิลหลบหนีโดดขึ้นต้นไม้ ลงมายังทำ Damage และ Slow ได้อีก แถมยังมีสกิลแปลงร่างลอกเลียนแบบที่กวนเอามากๆ ส่วนสกิล Ultimate ก็เป็นสกิลกางวงไฟต์ ศัตรูที่อยู่ในวงสกิลก็เจ็บตัวไปเรื่อยๆ แนะนำให้ศึกษาความสามารถของมันเอาไว้ให้ดี เพราะจากนี้ไปเราจะได้เห็นมันทุกครั้งที่เล่นไปจนเบื่อขี้หน้ากันไปข้างก็ยังต้องทนเห็นหน้ามันต่อไปแบบไม่ห่างหายไปจากวงการง่ายๆ แน่นอน
Hero Talent
สำหรับ Hero Talent คือระบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าโดยในเลเวลที่ 10/15/20/25 เราจะสามารถใช้ Skill Point มาเลือกอัพ Talent ได้ โดยตัว Talent แต่ละช่วงนั้นจะมี 2 ตัวเลือกให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ข้อสำคัญที่ควรทำความเข้าใจก็คือ Hero Talent จะใช้ Skill Point เท่ากับว่าในเลเวล 10/15/20/25 เราต้องอย่าพลาดนำ Point ไปอัพสกิล แต่ให้นำมาอัพ Talent แทน นอกจากนั้นการมาของ Hero Talent ทำให้เราไม่สามารถเลือกอัพ Attribute (Stat) ให้กับฮีโร่ได้แล้ว เพราะถูกแทนที่ด้วยระบบใหม่อันนี้ ส่วน Hero Talent ที่น่าสนใจส่วนใหญ่จะอยู่ที่เลเวล 25 แต่ละอย่างบอกเลยว่าทำให้สกิลหรือตัวฮีโร่นั้นเก่งมากขึ้นแบบไม่ธรรมดา ใครเลเวล 25 ก่อนจะได้เปรียบในเกมเอามากๆ
ปรับเลเวลของ Ultimate
จากเดิมก่อนหน้าเราจะอัพสกิล Ultimate ได้ตอนเลเวล 6/11/16 แต่หลังจากแพทช์นี้จะเปลี่ยนเป็น 6/12/18 แทน เพียงแต่ค่าประสบการณ์ในการใช้ได้ถูกปรับให้ลงน้อยลงด้วยเช่นกัน โดยตอนเลเวล 12 ของแพทช์ 7.0 จะใช้ค่าประสบการณ์เท่ากับเลเวล 11 ของแพทช์ 6.88 และเลเวล 18 ใน 7.0 จะใช้ค่าประการณ์เท่ากับเลเวล 16 ของแพทช์ 6.88 โดยรวมแล้วเท่ากับว่าเราสามารถอัพสกิล Ultimate ได้ในเวลาเท่าเดิมในการเล่นนั่นแหละ
Backpack ช่องเก็บไอเทมแบบเสริมเพิ่มอีก 3 ช่อง
อีกหนึ่งระบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้า จากเดิมเราจะมีช่องกระเป๋าให้เก็บไอเทมได้ทั้งหมด 6 ช่อง แต่ในแพทช์ 7.0 นี้จะมีช่องเก็บไอเทมแบบพิเศษเพิ่มให้อีก 3 ช่อง เพียงแต่ไอเทมที่อยู่ในช่องพิเศษนี้ จะไม่แสดงผลใดๆ เลย และไม่สามารถนำไอเทม Gem, Rapier, Bloodstone และ Aegis ไปใส่ไว้ในช่องเหล่านี้ได้ รวมไปถึงหลังจากมาของระบบ Backpack นี้ส่งผลให้ คูลดาวน์ของไอเทมทุกชิ้น หากไม่ได้อยู่ในช่องไอเทมปกติ การลดเวลาคูลดาวน์ของมันจะช้าลงไปครึ่งหนึ่ง (1 วินาทีของไอเทม จะใช้เวลา 2 วินาทีจริง ในการลดคูลดาวน์) สำหรับระบบ Backpack นั้นจะมีประโยชน์สำหรับการนำไอเทมจำพวก Recipe มาไว้จะได้ผสมไอเทมง่ายขึ้น หรือในช่วงท้ายเกมหลังจากมีไอเทมมากกว่า 6 ชิ้นขึ้นไป บางทีเราสามารถสลับไอเทมไปมาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง อย่างเช่น Black King Bar เมื่อกดใช้งานเสร็จ เราก็สามารถเก็บมันลงใน Backpack ได้เลย แล้วนำไอเทมจำเป็นอย่างอื่นขึ้นมาเปลี่ยนใช้แทน เพียงแต่ก็ต้องยอมแลกตรงที่ว่าคูลดาวน์ของไอเทมมันจะช้าลงไปครึ่งหนึ่งแผนที่ถูกปรับเปลี่ยนเยอะมาก
ต้องบอกเลยว่าการเปลี่ยนแผนที่ภายใน 7.0 นี้ เปลี่ยนอยู่หลายจุดมาก ทั้งป่าในฝั่ง Radiant และ Dire เปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมด รวมไปถึงจุดเกิดของ Creep ป่า จุดเกิด Roshan ต้องเริ่มเปลี่ยนหาเส้นทางการวิ่งแบบใหม่
การปรับเปลี่ยนของ Creep ป่า
– Creeps ป่าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการฟาร์มเงินและเลเวล ในแพทช์ 7.0 นี้มีการเปลี่ยนที่นับเป็นเรื่องใหญ่มาก็คือ จากเดิมมันจะเกิดใหม่ทุกๆ 1 นาที แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นทุก 2 นาทีแทนแล้ว แต่ Creep ป่าชุดแรกจะเกิดในช่วงเวลา 0:30 เหมือนเดิม (จะเกิดในช่วงเวลาเลขคี่ นาที 1/3/5/7/….)
– ส่วนในป่าของแต่ละฝั่งจะมี 1 Ancient, 2 hard, 2 medium, และ 1 small camp ในป่าหลัก (หากเป็น Radiant ก็คือป่าฝั่งขวา, Dire ป่าฝั่งซ้าย) ส่วนป่ารองของแต่ละฝั่งจะมี 1 Ancient, 1 hard, และ 1 medium camp (ฝั่ง Radiant จะหมายถึงป่าฝั่งซ้าย ส่วน Dire หมายถึงป่าฝั่งขวา) และตอนนี้ Creeps ป่าจะมีอัตราการฟื้นฟู Mana 1 หน่วย จากเดิมที่เป็น 0
-Creeps ป่าใหม่ระดับ Ancient โดยเกิดมาจะมี 2 Prowler Acolytes และ 1 Prowler Shaman
สิ่งปลูกสร้างแบบใหม่ Shrine
สำหรับ Shrine นั้นจะถูกเพิ่มเข้ามาในตำแหน่งของ Secret Shop ของแต่ละฝั่ง และในจุด Ancient Camp ใหม่อีก 1 นอกจากนั้นก็ยังมี Shrine อยู่บ้านฝั่งละ 5 อันเลยทีเดียว ส่วนความสามารถของ Shrine นั้นเมื่อเราเข้าไปกดเปิดใช้งาน (โดยการคลิ๊กขวาที่ Shrine ในขณะที่ตัวฮีโร่เราอยู่ในระยะประชิดกับตัว Shrine) มันจะปล่อยออร่าออกมาระยะ 500 AoE โดยจะฟื้นฟู 120/40 HP/MP ต่อวินาที (และจะเพิ่มขึ้น 2 HP / 1MP ต่อนาทีภายในเกม) การฟื้นฟูนี้จะส่งผลนาน 5 วินาที แต่ตัว Shrine จะมีคูลดาวน์มากถึง 5 นาทีเลยทีเดียว นอกจากนั้นเรายังสามารถกดใช้งาน Teleport ลงใส่ Shrine ได้ด้วยเช่นกัน ส่วน Shrine นั้นจะสามารถเริ่มทำลายได้ก็ต่อเมื่อ Tower Tier 2 ถูกทำลายลงไปหมดแล้ว (นับแยกเฉพาะของแต่ละฝ่าย เช่นหาก Tower Tier 2 ของฝ่าย Radiant ถูกทำลายลงไปแล้ว จึงจะสามารถเริ่มทำลาย Shrine ของฝั่ง Radiant ได้ ) โดย Shirne จะมี 1500 HP, 20 Armor เมื่อถูกทำลาย คนที่ทำลายได้จะได้รับ 150 Gold
Rune
Rune นั้นจะถูกแยกเป็น 2 ประเภทก็คือ Powerup Runes (Haste, Double Damage, อื่นๆ) กับ Bounty Runes สำหรับ Powerup Runes นั้นจะอยู่ในจุดเกิดแบบเดิมก็คือ ทางน้ำทั้ง 2 ฝั่ง แต่ Bounty Runes จะไม่เกิดบนน้ำแล้ว แต่ Bounty Runes จะมีจุดเกิดใหม่ขึ้นมาแทน โดยจุดใหม่ที่ว่านี้จะอยู่ในป่าของทั้งฝั่ง Radiant และ Dire แต่ละฝั่งก็จะมีอยู่ 2 จุดเกิดใหม่ รวมแล้วเท่ากับว่ามีจุด Rune เพิ่มขึ้นมาอีก 4 จุดด้วยกัน ส่วนการเกิดของ Bounty Runes จะเกิดทุกๆ 2 นาที พร้อมกันถึง 4 จุดเลยทีเดียว ทำให้ Alchemist จากเดิมสกิล Greevil’s Greed เมื่อเก็บ Bounty Runes จะได้รับผลของมันเพิ่มขึ้น 3/4/5/6 เท่า จะเหลือแค่เพียง 2 เท่าในทุกเลเวลแทน เพื่อทำให้มันไม่เก่งจนเกินไปเมื่อมี Bounty Runes เกิดเยอะขนาดนี้ (แต่ก็เก่งอยู่ดีนั่นแหละ ในเมื่อทุก 2 นาทีมีโอกาสเก็บ Bounty Runes ได้เยอะมากขึ้น) ส่วน Bottle เมื่อกดเก็บ Bounty Runes จะเติมขวดได้แค่ 2 Chrages เท่านั้น
Illusions แจกเงินกับ XP แล้ว อย่าให้มันตายเล่นมากเกินไป
หลังจากนี้ทุกครั้งที่เราสามารถฆ่า Illusions ได้จะได้รับ Gold และ XP แล้ว แถมยังตามจำนวนเลเวลของ ฮีโร่ที่สร้างร่างแยกอีกด้วย โดยจะได้รับเป็น 5+Level Gold และ XP เช่นหากฆ่า Illusions ของฮีโร่เลเวล 5 ได้ ก็จะได้รับ 10 Gold และ XP ยกเว้นเพียง Illusion จากสกิล Juxtapose ของ Phantom Lancer ในกรณีที่ร่างแยกมันสร้างร่างแยกออกมาอีกที ร่างแยกที่สร้างออกมาต่อนั้นเมื่อฆ่าจะได้รับแค่เพียง 5 Gold และ XP เท่านั้น รวมไปถึงสกิล Wall of Replica ของ Darkseer เช่นกัน ร่างแยกจากสกิลนี้เมื่อฆ่าได้ก็จะได้รับ 5 Gold และ XP เท่ากัน
ไอเทม
Helm of the Dominator : ไม่ใช่ไอเทมดูดเลือดแล้ว
Mask of Madness : เมื่อกดใช้จะทำให้ติดใบ้และลดเกราะ 5 หน่วย จากเดิมที่จะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 30%
Quelling Blade / Iron Talon : ไม่ได้เพิ่ม Damage เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่จะเพิ่ม Damage แบบตรงๆ เข้าไปแทน โดยตัวตีประชิดจะเพิ่ม 24 หน่วย ส่วนตัวตีไกลจะเพิ่ม 7 หน่วย และยังส่งผลต่อ Roshan ด้วยเช่นกัน
Rod of Atos : เปลี่ยนความสามารถจาก Slow เป็น Root ทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้นาน 2 วินาที แต่หลังจากใช้แล้ว จะไม่แสดงผลทันที แต่จะเป็นรูปแบบ Projectile มีความเร็ว 1500 หน่วย หลังจากมันพุ่งไปถึงที่เป้าหมายแล้วไอเทมถึงจะแสดงผล
Strategy Phase
หลังจากที่เลือกฮีโร่ครบทุกตัวแล้ว ปกติเราก็จะถูกตัดเข้าสู่ภายในเกมไปเลย แต่หลังจากแพทช์ใหม่นี้จะถูกเปลี่ยนเข้าสู่ Strategy Time แทน ซึ่งจะมีเวลาให้นาน 30 วินาที ในระหว่างช่วงเวลานี้เราสามารถเลือกซื้อไอเทมเริ่มเกมได้เลย และอีกส่วนที่สำคัญก็คือสามารถปรึกษาแผน แนะนำการจัดเลนภายในทีม เพื่อตกลงกันว่าใครจะไปเลนไหนได้ โดยเราสามารถกดวางตัวฮีโร่ของเราลงใน Minimap ที่ขึ้นมาได้ และ Ward 2 อัน ที่สามารถซื้อได้เราสามารถแนะนำเพื่อนร่วมทีมได้เลยว่า ควรจะปักไว้ในจุดใดของแผนที่นั่นเอง นับว่าเป็นระบบที่สำคัญมากในการเล่นแบบ Ranked ไต่ MMR