Borderlands 4 เผยรายละเอียดช่วง engame และคอนเทนต์หลังการวางจำหน่าย

000

ผู้จัดจำหน่าย 2K และผู้พัฒนา Gearbox Software ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหา Endgame และคอนเทนต์หลังการวางจำหน่ายของ Borderlands 4 ซึ่งประกอบด้วย DLC แบบ “Story Pack” และ “Bounty Pack”, การต่อสู้กับบอสใหม่, อีเวนต์ตามฤดูกาล รวมถึงการกลับมาของโหมด Ultimate Vault Hunter Mode

111 scaled

Endgame
Borderlands 4 จะไม่จบลงเพียงแค่เมื่อเนื้อเรื่องหลักสิ้นสุด เพราะผู้เล่นยังสามารถรอคอยประสบการณ์ Endgame ที่ครอบคลุม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การตามล่าหา ไอเทมล้ำค่าที่สุดบนเกาะ Kairos ผู้เล่นจะได้พบกับระบบความก้าวหน้าผ่าน ภารกิจท้าทายประจำสัปดาห์, การปลดล็อก Specializations เพื่อปรับแต่งอาวุธและอุปกรณ์ได้ลึกยิ่งขึ้น และการกลับมาของโหมด Ultimate Vault Hunter Mode

โหมด Ultimate Vault Hunter – โหมดนี้ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับการกลับมาอีกครั้ง เป็นตัวเลือกความยากหลังจบเกม ที่จะท้าทายผู้เล่นด้วย 5 ระดับที่ปลดล็อกได้และมีความยากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ จากการนำบทเรียนที่ได้จากเกมภาคก่อน ๆ มาปรับใช้ โหมดนี้จึงไม่จำเป็นต้องเล่นแคมเปญซ้ำเพื่อเลื่อนแรงก์อีกต่อไป ผู้เล่นจะสามารถไต่อันดับได้จากภารกิจท้าทายที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อทดสอบบิลด์ที่เลือกใช้ ความยากจะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับความก้าวหน้า และตัดปัญหาการต้องฟาร์มอุปกรณ์ชิ้นเดิมซ้ำ ๆ ออกไป

Firmware – ในแต่ละแรงก์ของโหมด Ultimate Vault Hunter จะมี Firmware พิเศษ ซึ่งเป็นโบนัสเซ็ตสำหรับอุปกรณ์ ผู้เล่นจะได้สัมผัสระบบนี้ตั้งแต่ในแคมเปญหลัก ยิ่งเก็บ Firmware ได้มาก ก็จะยิ่งได้รับโบนัสค่าสถานะสูงขึ้น โบนัส Firmware ที่ทรงพลังเหล่านี้สามารถถ่ายโอนไปยังไอเทมอีกชิ้นได้หนึ่งครั้ง โดยไอเทมต้นทางจะถูกทำลาย และโบนัส Firmware จะไม่สามารถถ่ายโอนซ้ำได้อีก

Weekly Wildcards – จะมีกิจกรรมมากมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นยังคงออกตามหาของล้ำค่า Weekly Wildcards จะเป็นภารกิจที่หมุนเวียนทุกสัปดาห์ พร้อมรางวัล Legendary ที่รับประกันแน่นอน Weekly Big Encore Boss จะมี Moxxi เลือกบอสขึ้นมา 1 ตัวในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งสามารถปลดล็อกเวอร์ชันใหญ่ได้ด้วยการใช้ Eridium เพื่อเพิ่มอัตราการดรอป Maurice’s Black Market Machine จะส่งผู้เล่นออกไปทั่วเกาะ Kairos เพื่อตามหาสมบัติ โดยลูทที่ได้รับจะแตกต่างกันในแต่ละเกมของผู้เล่น กิจกรรมทั้งหมดนี้รองรับการจับคู่ผู้เล่นออนไลน์ตามความตั้งใจ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถรวมทีมกับเพื่อน หรือเจอผู้เล่นใหม่ที่มีเป้าหมายตรงกัน

222 1

Post-Launch Roadmap
ผู้เล่นสามารถตั้งตารอแผนการอัปเดตที่แข็งแกร่ง ทั้งคอนเทนต์ฟรีและคอนเทนต์แบบเสียเงินที่จะทยอยปล่อยออกมาหลังการวางจำหน่าย Borderlands 4 เพื่อให้การผจญภัยบนเกาะ Kairos ดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยคอนเทนต์แบบเสียเงินจะมีสองรูปแบบหลัก ได้แก่ “Story Pack” และ “Bounty Pack”

Story Packs – หนึ่งในสอง Story Pack ที่ประกาศไว้ จะนำตัวละครยอดนิยมอย่าง Ellie กลับมาอีกครั้งในภาค “Mad Ellie and the Vault of the Damned” โดยมาพร้อมธีมสยองขวัญจักรวาลและโทนเรื่องที่โหดร้ายและมืดมนมากขึ้น “Story Pack” นี้ประกอบด้วย พื้นที่ใหม่ของเกาะ Kairos ให้สำรวจ, ภารกิจหลักและภารกิจรองที่น่าติดตามหลายภารกิจ, อุปกรณ์ Legendary ใหม่ทั้งหมด, และการเปิดตัว Vault Hunter ตัวแรกที่เล่นได้หลังวางจำหน่าย นอกจากนี้ แพ็กนี้ยังมาพร้อม Vault Hunter Skins ใหม่ 4 แบบ, Vehicle Skins ใหม่ 2 แบบ, ECHO-4 Drone Skins ใหม่ 3 แบบ, รวมถึง Attachments และ ECHO-4 Frame 1 ชิ้น

Bounty Packs – แพ็กแรกของ Bounty Pack จะนำเสนอภารกิจแบบมีเนื้อเรื่องที่ขยายจักรวาล Borderlands ให้กว้างขึ้น ภารกิจเหล่านี้จะเผยเรื่องราวของตัวละครใหม่ที่ผู้เล่นพบเจอบน Kairos เริ่มจาก Rush ผู้นำ Outbounders ที่เป็นมิตรและร่าเริง ในแต่ละ Bounty Pack จะประกอบด้วย Main Missions ใหม่, บอสใหม่, Legendary Gear ใหม่, Player Skin 1 แบบ, ECHO-4 Drone Skin 1 แบบ, Vehicle ใหม่ 1 คัน, และ Vault Card ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นปลดล็อก Cosmetics 24 ชิ้น และ Gear 4 ชิ้นที่สามารถรีโรลได้

นอกจากนี้ ยังมีคอนเทนต์ฟรีสำหรับผู้เล่นทุกคนคือ Seasonal Mini-Events ที่เริ่มต้นในเดือนตุลาคมกับกิจกรรม Horrors of Kairos ซึ่งจะมอบ อาวุธ Legendary ใหม่, Cosmetics ใหม่, และ Weather Variant ใหม่ รวมถึงในช่วงหลังวางจำหน่าย Invincible Bosses จะกลับมาเพื่อตรวจสอบทักษะและบิลด์ของผู้เล่นภายในอารีน่าบอสระดับสูง ที่ผสานกลไกการเคลื่อนที่ใหม่ อาวุธ Legendary ใหม่ทรงพลัง จะเป็นรางวัลล่อใจสำหรับผู้เล่นที่สามารถเอาชนะ Invincible Bosses ได้ พร้อมกันนี้ระดับใหม่ของ Ultimate Vault Hunter Mode จะปล่อยพร้อมกับแต่ละ Invincible Boss ด้วย

555 1

Borderlands 4 มีกำหนดวางจำหน่ายบน PlayStation 5, Xbox Series, และ PC ผ่าน Steam และ Epic Games Store ในวันที่ 12 กันยายน ก่อนจะตามมาบน Switch 2 ในวันที่ 3 ตุลาคม