สวัสดีครับ วันนี้ผมมาพร้อมกับประสบการณ์การเล่นเกมแบบมันส์สุดขอบโลก กับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่เหนือชั้นกว่าใคร นั่นก็คือ ASUS ROG Zephyrus S (GX531) ซึ่งหลังจากที่มีการปรับโฉมกันไปให้พอเห็นผ่านตาหลายๆ ท่านมาแล้ว กับเจ้าตัวโมเดล Zephyrus ต้นฉบับ แต่วันนี้ทาง ASUS กลับมาพร้อมกับจัดเต็มนวัตกรรมใหม่ล่าสุดโหดๆ ให้กับเจ้า ROG Zephyrus S กันอีกครั้ง ซึ่งจะน่าตื่นเต้นและเร้าใจขนาดไหน ตามมาได้เลยครับ
Design
Zephyrus S มาพร้อมกับตัวบอดี้ที่เป็นอลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน สีดำตัดกับขลิบสีทองสวยงาม และบวกกับความบางที่บางเพียงแค่ประมาณ 15 มิลลิเมตรเท่านั้น และน้ำหนักตัวเครื่องที่เบาหวิวเพียงแค่ 2.1 กิโลกรัม ทำให้ Zephyrus S ตัวนี้กระทัดรัดกว่าโมเดลรุ่นพี่ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้พูดง่ายๆ ว่าเหมาะแก่การพกพาซะเหลือเกิน
นอกจากนี้สิ่งที่ยังคงโดดเด่นเสมอต้นเสมอปลายก็คือ โลโก้ ROG ตรงตัวฝาที่มาพร้อมกับสีไฟแบบ RGB สวยงามเช่นเคย แต่จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ บานพับขากรรไกรที่ซ่อนอยู่ใต้ตัวเครื่อง นอกจากจะทำให้ดูเท่ๆ คูลๆ แล้วยังช่วยระบายความร้อนของเครื่องออกได้อีกด้วยนะครับ
Display
ด้วยขนาดของขอบจอภาพที่ถูกออกแบบมาให้แคบลง ทำให้ตัวหน้าจอมีพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดย Zephyrus S ตัวนี้มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 15.6” (1920×1080) Full HD และความโหดที่ขาดไม่ได้เลยที่ทาง ASUS จัดให้คือ ค่า Refresh Rate ต้องสูงถึง 144Hz เท่านั้น ส่วน Response Time อยู่ที่ 3ms ซึ่งถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะ เพราะคอเกมรู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะลื่นไหลและนุ่มนวลขนาดไหน ส่วนค่าการแสดงสีของหน้าจอก็ไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอน และตัวฝาหน้าจอสามารถเปิดได้กว้างถึง 178 องศาเลยทีเดียว
Performance
แน่นอนว่าหลายๆท่านคิดว่า เอ…บางขนาดนี้ เล็กขนาดนี้ เบาขนาดนี้ ประสิทธิภาพจะเต็มที่ได้เหรอ? ผมบอกได้เลยครับว่าที่ผ่านมา ASUS ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ครั้งนี้เองก็เช่นกัน เพราะว่าเจ้า Zephyrus S ตัวนี้ประสิทธิภาพสูงเทียบเท่า PC ได้เลยนะครับ ถ้ายังสงวัยว่ามันเทียบเท่าได้ยังไง ตามกันต่อเลยครับ
Zephyrus S ตัวนี้มาพร้อมกับ
ขุมพลัง Intel Core i7-8750H (2.20-4.10 GHz) Gen8 การ์ดจอ NVDIA Geforce GTX 1060
RAM 16 GB DDR4 และ SSD 512 GB นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้เลยคือมี Windows 10 Home 64 bit ไว้ให้ติดเครื่องเช่นเดิมครับ
Cooling (ระบบความร้อน)
ROG Zephyrus S ตัวนี้มาพร้อมกับระบบ Active Aerodynamic System (AAS) ที่มีการเพิ่มใบพัดลมเพื่อเพิ่มอัตราการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งทำให้มีใบพัดเพิ่มขึ้นสูงสุดแต่ละตัวถึง 83 ใบ ทำให้ระบบการไหลเวียนอากาศดีขึ้น 17% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และนอนว่ายังคงมาพร้อมกับพัดลม 12 โวลต์และระบบ Anti-dust เช่นเดิม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ROG ไปแล้ว แต่ที่เหนือชั้นกว่าอะไรทั้งหมด นอกจากตัวระบบระบายความร้อนของเครื่องที่โดดเด่นอยู่แล้ว ครั้งนี้ ASUS มีการปรับครีบระบายความร้อนทองแดงให้บางเพียง 0.1 มิลลิเมตร โดยมีจำนวนทั้งหมด 250 แผ่น โดยแบ่งเป็น 4 ชุดด้านข้างตัวเครื่อง และยังมีนวัตกรรมใหม่พิเศษที่ผมบอกได้ตั้งแต่ต้นเกี่ยวกับบานพับขากรรไกรด้านในตัวเครื่อง ซึ่งเวลาเปิดฝาหน้าจอใช้งาน เจ้าบานพับตัวนี้จะทำงานและยกระดับให้มีช่องว่างประมาณ 5 มิลลิเมตรเพื่อช่วยระบายความร้อนออกทางด้านหลัง ซึ่งนวัตกรรมนี้นอกจากจะเท่แล้วยังสามารถช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้นถึง 22% เลยทีเดียว
Quality
ROG Zephyrus S ตัวนี้ได้มาตรฐานและผ่านการทดสอบหลากหลายเพื่อการันตีคุณภาพมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบการกระแทกที่ความสูง 76 เซนติเมตรหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ทุกทานมั่นในได้ว่าแข็งแรงทนทานและพร้อมรับความเสี่ยงในการพกพาและใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน รวมถึงยังผ่านมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G ที่รองรับการสั่นสะเทือน แรงกระแทก และสภาพอากาศที่เลวร้ายรุนแรงได้อีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่า “มีเพียงไม่กี่รุ่นบนโลกเท่านั้นที่ทำได้”
Keyboard Aura Sync
มาถึงคีย์บอร์ดกันบ้าง ยังคงเสมอต้นเสมอปลายเช่นเดิม เรียกได้ว่าอะไรที่ดีอยู่แล้วทาง ASUS เค้าก็คงเส้นคงวารักษาไว้ให้เราแน่นอน ต้องบอกเลยว่าคีย์บอร์ดตัวนี้ออกแบบมาเพื่อความทนทานที่แท้จริง ซึ่งรองรับการใช้งานได้ถึง 20 ล้านครั้งเพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าเค้าผ่านการทดสอบมามากมาย นอกจากนี้ความสนุกสนานสดใสที่เราชื่นชอบก็ยังคงอยู่ด้วย RGB Backlit 4 โซน ของ Aura Sync ที่ทำให้คุณปรับสีระบบไฟของคุณได้ตามใจชอบได้เลยครับ
นอกจากนี้แล้วผมขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าตาของแผงคีย์บอร์ดของเจ้า Zephyrus S กันนิดนึงนะครับ เผื่อไว้สำหรับบางท่านที่อาจจะเพิ่งเข้ามาวงการเกมมิ่งใหม่ๆ เจ้าคีย์บอร์ดของ Zephyrus S ตัวนี้ยังคงตามรอยรุ่นพี่ต้นฉบับอยู่ครับ บางท่านอาจจะตกใจวี้ดว้ายที่เพิ่งได้เห็น เพราะคีย์บอร์ดเค้าตัวแป้นพิมพ์ทั้งหมดถูกยกลงมาอยู่ด้านล่าง พร้อมกับ Touch pad ที่อยู่ด้านข้างขวาของมือเรา (ซึ่งสามารถปรับเป็น Numpad ได้ด้วย) ส่วนพื้นที่ด้านบนนั้นเป็นพื้นที่สำหรับช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องนะครับ ซึ่งผมว่าการดีไซน์ถือว่าฉีกทุกกฎเกณฑ์จริงๆ
Audio
มาถึงความจี๊ดที่น่าประทับใจมากๆ สำหรับผมอีกอย่างนอกจากดีไซน์ที่ฉีกกฎเกณฑ์ ก็คือระบบเสียงของเจ้า Zephyrus S นี่แหละครับ เพราะตัวนี้ลำโพงทั้งคู่ถูกออกแบบให้หันหน้ามาหาผู้ใช้งาน ทำให้เสียงดังฟังชัด แถมยังมีการเพิ่มเสียงเบสมากขึ้นถึง 3 เท่า และสามารถปรับเพิ่มความดังของลำโพงได้มากขึ้นอีก 2 เท่าโดยที่ไม่เกิดความเสียหายใดๆ ทำให้ระบบเสียงเครื่องนี้กระหึ่มสุดๆ ไปเลย
Software
สำหรับ ROG Zephyrus S นั้น มาพร้อมกับ ROG Armory Crate ซึ่งจริงๆ หลายท่านอาจจะคุ้นชินกับการเรียกว่า ROG Gaming Center มากกว่า ซึ่งการทำงานของแอพพลิเคชั่นนี้นั้นก็เพื่อช่วยให้คุณได้ควบคุม ปรับแต่งการทำงาน และตรวจสอบสถานการณ์ทำงานของเครื่องได้ภายในแอพพลิเคชั่นนี้อย่างเดียวได้เลยครับ ซึ่งเจ้า Armory Crate นี้ผมคาดว่าน่าจะได้รับการพัฒนาจาก ASUS อย่างต่อเนื่องต่อไป และน่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นให้เราเห็นกันในอนาคต และที่ขาดไม่ได้คือ ASUS แถมโปรแกรม XSplit มาให้สำหรับนักแคสต์เกมเช่นเดิมด้วยครับผม
Port
- USB 3.1 = 2 ช่อง
- USB 3.1 Gen2 = 1 ช่อง
- USB Type-C Gen1 = 1 ช่อง
- USB Type-C Gen2 + Display Port = 1 ช่อง
- 5mm Audio Jack
- HDMI
- Kensington lock
- Power
Summary
| ASUS | ROG Zephyrus S GX531 |
| Processor | Intel Core i7-8750H (2.20-4.10 GHz ) |
| Graphics | NVIDIA GeForce GTX 1060 |
| Memory | Ram 16 GB DDR4 |
| Harddisk | SSD 512 GB |
| Display | 15.6″ (1920×1080) Fuul HD IPS 144Hz 3ms |
| Window | Window 10 Home |
| Weight | 2.1 kg |
| Price | 64,990 Baht |
สรุปโดยรวม ROG Zephyrus S ตัวนี้ก็ยังคงโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่แปลกตา แปลกใหม่ แต่ต้องยอมรับกับนวัตกรรมที่ทาง ASUS พัฒนาออกมาจริงๆ ครับ
ส่วนเรื่องเล่นเกม ผมลองทดสอบแล้ว เกมโหดๆ ทุกเกม ทุกระบบ สบายหายห่วงมากๆ ครับ จริงๆ แค่ดูจากสเปคผมว่าก็ไม่มีอะไรน่าห่วงตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนราคาเจ้า ROG Zephyrus S ตัวนี้อยู่ที่ 64,990 บาท ผมรับรองว่าคุ้มกับราคาแน่นอน เพราะใช้ได้อีกยาวนานจนลูกเติบโตและส่งต่อเป็นสมบัติได้เลยครับ ฮ่าๆ อีกอย่างคือตอนนี้ทาง ASUS มีโปรโมชั่นพิเศษด้วยนะครับ หากคุณซื้อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ASUS/ROG รับฟรี!! เกมมูลค่ากว่า 5,000 บาทเลยครับผม ส่วนรายละเอียดโปรโมชั่นและวันหมดเขตสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของทาง ASUS Thailand ได้เลยคร้าบ
สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ คราวหน้ามีอะไรมาใหม่ ผมจะตามมาอัพเดตแน่นอนครับผม สวัสดีครับ
