ระบบดันเจี้ยนเชื่อว่าเป็นอะไรที่ผู้เล่นใหม่และสัมผัสเกมนี้เป็นครั้งแรกจะงงๆ กันหน่อย เพราะกว่าจะได้ลงดันเจี้ยนแบบจริงๆ จังๆ ก็ปาไปเลเวล 50 เลยทีเดียว แถมบางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเข้าดันเจี้ยนทำอย่างไรและเข้าแบบไหนดี แบบไหนไม่ดี เอาเป็นว่าในฉบับนี้เราจะมาแคะข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนมาให้ได้ทราบกัน ว่าเข้าแบบไหน มีอะไรบ้างและต้องทำยังไง
.
ระบบดันเจี้ยน
เป็นสถานะที่ปิด มีรอบการเข้าต่อวันจำกัด และเป็นสถานะที่สำหรับเก็บเลเวลได้แบบรวดเร็ว เพราะมีมอนสเตอร์ให้ค่าประสบการณ์สูง อีกทั้งยังเป็นแหล่งการหาแรร์ไอเทมชั้นยอดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบระดับสูง, แรร์ไอเทมประเภทอาวุธและอุปกรณ์, เงิน รวมไปถึงการ์ดบอสต่างๆ สามารถหาได้จากการลงดันเจี้ยนเหล่านี้ แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าการจะลงดันเจี้ยนได้นั้นจะต้องมีเงื่อนไขและวิธีการที่ควรทราบดังนี้
.
เงื่อนไขและสิ่งที่ควรรู้
– จำนวนการลงดันเจี้ยนจะมีจำกัดต่อวันและสามารถลงได้ 2 รอบ ต่อวันเท่านั้น ส่วนผู้เล่นที่มี Token จะสามารถลงได้ 3 รอบต่อวัน โดยจำนวนรอบจะคิดรวมกันทุกดันเจี้ยน
– ผู้เล่นสามารถตรวจสอบการเข้าดันเจี้ยนและจำนวนรอบรวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ ได้จากการพิมพ์ /indun ในช่องแชททั่วไป หรือเข้าไปดูคำสั่งจากไอคอน “ดันเจี้ยน” มุมขวาล่างของหน้าจอก็ได้เช่นกัน
– การเข้าสู่ดันเจี้ยนจะเข้าผ่านทาง “เสาดันเจี้ยน” ที่อยู่ตามแผนที่ต่างๆ เท่านั้น และสามารถหาปาร์ตี้ได้จาก “จับคู่อัตโนมัติ” ได้เลย
รูปแบบของดันเจี้ยน
การเข้าดันเจี้ยนจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ จับคู่อัตโนมัติ และปาร์ตี้
จับคู่อัตโนมัติ
เป็นการกดค้นหาปาร์ตี้แบบสุ่ม ข้อดีของการเข้าแบบจับคู่อัตโนมัติก็คือ จะได้รับค่า Exp เพิ่มขึ้น 120% ต่อจำนวนสมาชิกในปาร์ตี้ 1 คน นั่นหมายความว่าจะได้ค่าประสบการณ์ Exp เพิ่มสูงสุดถึง 600% เลยทีเดียว และที่สำคัญก็คือ สามารถคำนวณร่วมกับ Exp Tome ได้อีกด้วย ทำให้สามารถเก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็ว
*** การเก็บเลเวลในดันเจี้ยนเพื่อให้ได้ค่าประสบการณ์ 600% สมาชิกในปาร์ตี้ต้องอยู่ในระยะการมองเห็นของหน้าจอ (เกินได้เล็กน้อย) ถ้าอยู่นอกระยะก็จะคิดแค่สมาชิกที่อยู่ในระยะปาร์ตี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นควรวิ่งไปด้วยกันจะทำให้เก็บเลเวลได้มีประสิทธิภาพและไวขึ้น ***
ปาร์ตี้
เป็นการตั้งปาร์ตี้มาก่อนเข้าดันเจี้ยน ส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งปาร์ตี้สำหรับผู้เล่นเลเวลสูงและเกินกว่าที่จะได้รับ Exp จากดันเจี้ยน มักจะสร้างมาเพื่อหาแรร์ไอเทมและเงินจากดันเจี้ยนเป็นหลัก
เพิ่มเติมเกี่ยวกับดันเจี้ยน
1. สำหรับคนที่อยากลงแบบคนเดียวในดันเจี้ยน สามารถทำได้ด้วยวิธีดังนี้
– สร้างปาร์ตี้เป็นของตัวเองก่อน
– ไปที่เสาดันเจี้ยนแล้วเลือกที่หัวข้อ “เข้าทันที”
2. การใช้ระบบ “จับคู่อัตโนมัติ” ในดันเจี้ยนเลเวลสูงๆ อาจจะทำให้ยุ่งยากในการสู้บอส เพราะระบบจะสุ่มสายอาชีพซึ่งบางครั้งจะสุ่มได้อาชีพเดียวกันซ้ำๆ, ขาดตัวดาเมจ, ขาดตัวซัพพอร์ต แน่นอนว่าอาจจะทำให้จบดันได้ยากและช้านั่นเอง
Multiply Mode
จะเห็นได้ว่าที่ “เสาดันเจี้ยน” เมื่อเรากดเข้าไปจะมีช่อง EXP DROP RATE X1 อยู่ข้างๆ ซึ่งช่องนี้มีไว้สำหรับการลงแบบ Multiply Mode โดยเจ้า Multiply Mode ที่ว่านี้เป็นระบบที่จะช่วยประหยัดเวลาในการลงดันเจี้ยนเดิมแบบซ้ำๆ นั่นเอง
การลงดันเจี้ยนแบบ Multiply Mode จะทำให้เราสามารถใช้รอบในการลงดันได้จนถึงจำนวนสูงสุด X3 แต่เราลงดันเจี้ยนจริงๆ เพียงแค่ 1 รอบเท่านั้น ซึ่งจำนวนรอบจะใช้ตามจำนวนที่เรากดและค่าประสบการณ์รวมไปถึงไอเทมก็จะได้เพิ่มตามจำนวนด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น
ถ้าลงดันเจี้ยนเลเวล 50 โดยใช้ Multiply Mode X3 เราจะเสียรอบลงดัน 3 รอบ แต่ลงดันแค่ครั้งเดียว ไอเทมที่ได้รับอย่าง Cube, เงินและค่าประสบการณ์ Exp ก็จะได้คูณ 3 หลังจากจบดันเจี้ยน
เงื่อนไขการลงแบบ Multiply Mode
การลงแบบ Multiply Mode จะต้องใช้ไอเทมที่มีชื่อว่า “Instanced Dungeon Multiply Token” โดยไอเทมชิ้นนี้จำนวน 1 ชิ้นจะสามารถใช้ในการลงแบบ Multiply Mode เพิ่มได้ 1 ครั้ง
แรร์ไอเทมที่น่าสนใจจากดันเจี้ยน
แรร์ไอเทมในดันเจี้ยนส่วนใหญ่จะมีไอเทมพื้นฐานที่คล้ายๆ กัน โดยแรร์ไอเทมจะมีดังนี้
อุปกรณ์ต่างๆ
ในแต่ละดันเจี้ยนจะดร็อปไอเทมประเภทอุปกรณ์ระดับสีม่วงและระดับสีทอง โดยจะขึ้นอยู่กับระดับเลเวลของดันเจี้ยนนั้นๆ อุปกรณ์ที่ดร็อปก็จะมีเลเวลเหมาะสมกับผู้เล่นที่ลงด้วย เช่น ดันเจี้ยนเลเวล 50 ก็จะดร็อปอุปกรณ์เลเวล 50 สีม่วง เป็นต้น แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าดร็อปค่อนข้างยากเลยทีเดียว
Cube
ไอเทมพื้นฐานที่จะได้จากทุกดันเจี้ยนเมื่อกำจัดบอสได้ 1 อันต่อการลง 1 ครั้ง โดยเจ้า Cube นี้จะเหมือนกับกล่องสุ่มไอเทม โดยจะสุ่มไอเทมทุกอย่างที่มีดร็อปจากดันเจี้ยนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น แรร์ไอเทมสีม่วง, ใบคราฟต์ไอเทม, วัตถุดิบและการ์ดบอส
สำหรับ Cube นั้นเมื่อคลิกขวาเปิดจะเปิดได้ 3 ครั้งต่ออัน ในครั้งแรกจะเป็นการเปิดฟรี ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 จะต้องเสียเงินในการเปิด ซึ่งค่าเปิดก็จะเพิ่มขึ้นตามระดับของดันเจี้ยนและ Cube ด้วยเช่นกัน
*** Cube แต่ละดันเจี้ยนจะมีชื่อไม่เหมือนกัน ยิ่งระดับดันเจี้ยนสูงมากเท่าไร ค่าเปิดก็จะแพงขึ้นเท่านั้น ***
วัตุดิบระดับสูง
ในดันเจี้ยนจะดร็อปไอเทมประเภทวัตถุดิบระดับสูงด้วย แน่นอนว่ามันเอาไว้คราฟต์แรร์ไอเทมหลายๆ อย่างนั่นเอง
การ์ดบอส
อีกหนึ่งแรร์ไอเทมที่หลายคนต้องการมาครอบครอง เพราะจะช่วยเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครตามคุณสมบัติของการ์ด นอกจากนั้นอาชีพอย่าง Sorcerer หรือ Necromancer สามารถเรียกบอสจากการ์ดได้
Underground Chapel Dungeon
เลเวลที่ต้องการ : เลเวล 50 ขึ้นไป
แผนที่ตั้งเสาดันเจี้ยน : Tenet Garden
เป็นดันเจี้ยนแรกที่ต้องเจอตอนเลเวล 50 ถือเป็นดันเจี้ยนที่เปลี่ยนชีวิตของหลายคนไปเลยทีเดียว เพราะเมื่อเข้าแบบ “จับคู่อัตโนมัติ” และกด Exp Tome ไปด้วยตอนลง จะสามารถเก็บเลเวลแบบก้าวกระโดด จากเลเวล 50 ไปเลเวล 80 ได้แบบไม่ยาก
สำหรับดันเจี้ยนนี้บอกได้แค่ว่าไม่ยาก เพราะมอนสเตอร์จะมีเลเวลเพียงแค่ 50 หน่อยๆ เท่านั้น เพียงแค่เดินหน้าฆ่ามอนสเตอร์อย่างเดียว สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ถ้าเน้นเก็บเลเวลก็ไม่ควรไปห้องที่ 5 ก่อน (ดูจากภาพประกอบ) ให้เดินตามสเต็ปได้เลย เมื่อกำจัดบอสได้ก็จะได้รับไอเทมดร็อปต่างๆ และ Cube เป็นของรางวัล สเต็ปการเดินในดันเจี้ยน
การเดินเก็บเลเวลในดันเจี้ยนถ้าจะให้เร็วจะต้องเดินกันเป็นขบวนตามสเต็ป 1-5 โดยไปแต่ละโซนตามภาพประกอบ
Area of Ruins Dungeon
เลเวลที่ต้องการ : เลเวล 80 ขึ้นไป
แผนที่ตั้งเสาดันเจี้ยน : Zachariel Crossroads
อีกหนึ่งดันเจี้ยนระดับไอสปีดเลเวล เป็นดันเจี้ยนที่ไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป เน้นการเดินหน้าฆ่ามอนสเตอร์อย่างเดียวเหมือนกับดันเจี้ยนเลเวล 50 และเช่นกันคือ ได้รับผลจาก Exp Tome และ Token เช่นเดียวกัน เมื่อกดก่อนเข้าดันจะสามารถเก็บเลเวลตั้งแต่ 80 ไป 90+ ได้เพียงแค่การลงครั้งเดียว
มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนี้จะมีเป็นกระจุกและอยู่กันเป็นกลุ่ม แนะนำว่าให้แท็งค์เดินนำหน้าและไม่ควรอยู่ห่างจากเพื่อนมากเกินไป และสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ พื้นต่างระดับ (มีเสาล้มขวางอยู่) จุดนี้จะสามารถกระโดดข้ามไปได้ ถ้าไม่รีบข้ามจะทำให้เพื่อนเดินทิ้งห่างและได้ Exp น้อย
สเต็ปการเดินในดันเจี้ยน
การเดินเก็บเลเวลในดันเจี้ยนถ้าจะให้เร็วจะต้องเดินกันเป็นขบวนตามสเต็ป 1-4 โดยไปแต่ละโซนตามภาพประกอบ