สวัสดีครับวันนี้ผม Exp จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับฮีโร่ใหม่ประจำสัปดาห์
Lauriel ฮีโร่ตำแหน่ง Mage ที่เป็นได้ทั้งตัวดาเมจ และ ตัวแอสซาซิน เนื่องด้วยสกิลเอื้ออำนวยให้สามารถได้หลายรูปแบบด้วยกัน ความสามารถจากเมจที่ต้องใช้สกิลสแปมเรื่อยๆ ความสามารถของแอสที่มีความคล่องตัวสูงมากในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการยืน และ ความสามาถของสกิลอันติเมท ที่ช่วยลดคลูดาวน์สกิลอื่นๆทำให้เพิ่มความโหดขึ้นไปอีก ตำแหน่งการยืนยังคงสำคัญมากสำหรับ Mage ตัวนี้ต่อให้พริ้วแค่ไหนถ้ายืนล้ำหน้าเกินไปก็เป็นศพได้สบายๆเลยด้วยพลังชีวิตที่ให้มาน้อยเหลือเกิน
สกิล
Divine Punishment (สกิลติดตัว) ศัตรูที่ได้รับความเสียหายจากสกิลของ Lauriel ทุกสกิล จะมีสัญลักษณ์แห่งแสงขึ้นที่หัว เมื่อโดนสัญลักษณ์แห่งแสงครบ 4 ครั้งจะระเบิด จะสร้างความเสียหายจริง 160(+0) ให้กับศัตรูในระยะและลดความเร็วเคลื่อนที่ลงถึง 90% เป็นเวลา 1 วินาที พร้อมกับพื้นฟูพลังชีวิต 110 หน่วย
Holy Light (คูลดาวน์ 5 วินาที , มานาที่ต้องใช้ 50) Lauriel โจมตีศัตรูเบื้องหน้าด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ สร้างความเสียหายเวทย์ 215(+0) หลังจากชั่วเวลาหนึ่ง ลำแสงจะสร้างความเสียหายซ้ำอีกครั้ง
Blink (คูลดาวน์ 10 วินาที , มานาที่ต้องใช้ 50) Lauriel พุ่งไปยังทิศทางที่กำหนด พร้อมกับปล่อยลูกไฟแห่งแสง 3 ลูก ใส่ศัตรูรอบๆ สร้างความเสียหายเวทย์ 175(+0) หากโจมตีโดนเป้าหมาย จะลดคลูดาวน์ของสกิลนี้ 4 วินาที
Smite (คูลดาวน์ 40 วินาที , มานาที่ต้องใช้ 80) Lauriel สร้างวงเวทย์ขนาดใหญ่ขึ้นมา สร้างความเสียหายเวทย์ 210 (+0) แก่ศัตรูรอบตัว และลดคลูดาวน์สกิลอื่นของตัวเอง
แนวทางการอัพสกิล
สกิลดาเมจหลักจะมาจากสกิล 1 ที่อนิเมชั่นการออกสกิลน้อยและไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเหมือนสกิล 2 ช่วงตอนเกดมเน้นสแปมจากนอกวงนั่นเอง
ชาเลนเจอร์สกิลที่แนะนำ
Flicker- ใช้สำหรับเพิ่มความคล่องตัว ให้กับเราไม่ว่าเป็นการกระโดดตามคู่ต่อสู้ที่รอดจากระยะทำการหรือใช้หนีออกจากพื้นที่ปะทะแล้วหันกลับมาทำดาเมจใหม่ จะเป็นการป่วนทีมไฟท์อีกฝ่ายมากๆ
Heal – ในจังหวะปะทะเราสามารถใช้ฮีลเพื่อนร่วมทีมได้ ชาเลนเจอร์นี้เหมาะสมกับทีมไฟท์มาก และในบางจังหวะที่เราหนีตาย การกดฮีลเพิ่มเลือดขึ้นมาล่อให้เพื่อนก็เป็นอีกวิธีในการหลอกให้คู่ต่อสู้ตายใจเช่นกัน
ไอเทมที่แนะนำ
Orb of the Magi – เพิ่มพลังเวทย์ + 140 ลดคูลดาวน์ + 10% สกิลติดตัว : From the Ashes เมื่อฮีโร่เลเวลเพิ่มขึ้นจะฟื้นฟู 20% ของพลงชีวิตนาน 3 วินาที
Sonic Boots – เพิ่มเกราะ + 110 ลดความเสียหายที่ได้รับจากการโจมตีปกติ 15%
The Aegis – ลดคูลดาวน์ลง 20% มานา +500 หน่วย และเกราะ +360 ความสามารถของไอเทม ลดความเร็วโจมตีผู้ทำการโจมตีใส่เรา 30% และลดความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%
Rhea’s Blessing – เพิ่มพลังเวทย์ + 140 , ลดคูลดาวน์ 10% สกิลติดตัว – Mana Shield : เมื่อ HP ต่ำกว่า 40% จะสร้างโล่ 500-1200(+40% โบนัสพลังเวท) สกิลติดตัว : เวทแวมไพร์ +25% ไอเท็มชิ้นจะเป็นเหมือนกับโล่บล๊อคดาเมจให้กับเราและเป็นไอเท็มดูดเลือดสำหรับสายเวทย์ด้วย
Hecate’s Diadem – เป็นไอเท็มดาเมจที่สายเวทย์ที่จะช่วยเสริมดาเมจเวทย์จากสกิลของเราให้ทรงพลังมากขึ้น
Holy of Holies – ที่ + ดาเมจเวทย์ 400 และที่สำคัญยัง + พลังชีวิตอีก 1400 หน่วยทำให้ตัวเราถึกขึ้นช่วงท้ายเกม
รูนที่แนะนำ
โดยเน้นไปที่พลังโจมตีเวทย์เป็นหลักทั้งหมด และ เลือกเสริมในจุดที่ Lauriel ต้องการเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นการ การใช้เวทย์แล้วดูดเลือด และ สุดท้ายการช่วยลดคลูดาวน์สกิลทำให้สามารถใช้สกิลได้ต่อเนื่อง
เทคนิคการเล่น
Lauriel เป็น Mage ที่มีความพริ้วสูงและที่สำคัญอนิเมชั่นของการออกสกิลที่รวดเร็วทำให้เพื่อความคล่องตัวเข้าไปอีกแถมเมื่อมีสกิล Smite หรือสกิลอันติเมท จะทำให้เราสามารถไฟท์ได้นานขึ้นแบบทันตาเห็นนอกจากนี้สกิล Smite ยังลดคลูดาวน์ทุกสกิลร่วมไปถึงสกิลอันติเมทด้วยทำให้ใช้ได้ต่อเนื่องมากขึ้นเลยทีเดียวจังหวะที่ควรใช้ควรเป็นจังหวะปะทะใหญ่เนื่องด้วยสกิลนั้นคลูดาวน์นานนั่นเอง
สกิลอันติเมทอย่าง Smite มีวงกว้างก็จริงแต่ดาเมจที่ทำได้จากสกิลจะเป็นครั้งเดียวเท่านั้นไม่มีความเสียหายเพิ่มเติมจะหวังดาเมจจากสกิล Holy Light และ Blink เป็นหลักและต้องบอกก่อนเลยสำหรับ Lauriel ไม่ใช่ตัวเบิร์ดดาเมจแต่เป็นก่อกวนในไฟท์ที่มีความสามารถในการไล่ตามคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วดังเช่น แอสซาซิน ดาเมจที่ได้ส่วนใหญ่จะมาจากการสแปมสกิลจากวงนอกเมื่อมี สกิลอันติเมท Smite เราถึงค่อยเข้าเปิดจังหวะปะทะให้เปิดได้และพยายามอยู่ในวงเวทย์ของเราให้มากที่สุดเพื่อสกิลทุกสกิลรีคลูดาวน์ไว้ขึ้นเพื่อรีดดาเมจออกมาได้สูงสุด
สามารถรับชมสกิล และ การเล่นได้ที่นี้