ยินดีต้อนรับสู่สกู๊ป English From Games สกู๊ปที่ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากเกมครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเข้าสู่โลกของ Final Fantasy Brave Envius ผมบอกได้เลยว่าบทสนทนาของเกมนี้น่าสนใจมาก เพราะเป็นสำนวนที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน และผู้พัฒนาเกมก็ได้เขียนบทสนทนาให้เราได้หัวเราะตลอดเวลา มาติดตามและเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปพร้อมกันครับ
———————————————
หลังจากเรนและลาสเวลได้พบหญิงสาวปริศนาพร้อมกับคำขอความช่วยเหลือ ทั้งสองตัดสินใจเดินทางไปยังวิหารแห่งพสุธา เมื่อมาถึงเรนสั่งการให้ทหารทั้งหมดรออยู่ภายนอก เขากับลาสเวลจะเข้าไปข้างในเพียง 2 คนเท่านั้น
Lasswell : Rain, are you sure this is wise? The two of us going in alone…
ลาสเวล : เรน นายแน่ใจแล้วเหรอ ที่จะมีแค่เราสองคนเข้าไปในนี้…
Rain : I can’t risk my men’s lives for some flight of fancy, now can I?
เรน : ฉันจะเอาชีวิตคนของฉันมาเสี่ยงกับเรื่องเหนือธรรมชาติได้ยังไง
Lasswell : But you would risk your own. Which suggests that you believe that was more than an illusion we saw.
ลาสเวล : แต่นายเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง กับสิ่งที่นายเชื่อว่ามันเป็นมากกว่าภาพลวงตาเนี่ยนะ
Rain : All I can say is that illusion or not, that girl’s tears looked real enough to me.
เรน : สิ่งที่ฉันพูดทั้งหมดมันเป็นภาพลวงตาหรือไม่ น้ำตาของเธอผู้นั้นดูจริงเพียงพอสำหรับฉัน
Lasswell : Rain! At the very last, could you wait for me!?
ลาสเวล : เรน! อย่างน้อยนายช่วยรอฉันได้มั๊ย?
เรนและลาสเวลเข้ามาในวิหาร ที่ดูเหมือนไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ
Lasswell : Everything seems in order… To my eyes, at least…
ลาสเวล : อย่างน้อยทุกสิ่งทุกอย่างดูเรียบร้อยดี… ในสายตาของฉันนะ
Rain : … Then you may want to have your eyes examined, friends.
เรน : ..ถ้าอย่างนั้นนายอาจจะต้องไปตรวจสายตาแล้วล่ะเพื่อน
ขณะที่กำลังสนทนากันอยู่ หนูยักษ์น่าเกลียดตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาทางเรนและลาสเวล ทำให้ลาสเวลตกใจเป็นอย่างมาก
Lasswell : What of the barrier!? Has it been broken?
ลาสเวล : เกิดอะไรขึ้นกับบาร์เรีย? มันแตกแล้วหรือไง?
Rain : The fiend standing before us seems to be nodding “yes.”
เรน : สัตว์ประหลาดที่ยืนข้างหน้าเราดูเหมือนกำลังพยักหน้าว่า “ใช่” นะ
Lasswell : Take care not to cut yourself on that sharp wit, Rain.
ลาสเวล : ระวังอย่าให้ความคิดสุดคมกริบของนายบาดตัวเองแล้วกันนะเรน
Rain : At any rate, it would seem our girl in the sky spoke true.
เรน : อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าสาวน้อยบนฟ้าจะพูดความจริงนะ
Rain : …Lasswell. Where can we find the crystal?
เรน : …ลาสเวล เราจะหาคริสตัลได้ที่ไหน
Lasswell : In the shrine’s innermost chamber.
ลาสเวล : ในห้องข้างในสุดของวิหาร
เรนและลาสเวลเข้าต่อสู้กับหนูยักษ์และสามารถกำจัดมันได้ แต่อย่างไรก็ตามมีเหล่าค้างคาวและหนูยักษ์ออกมาโจมตีพวกเขาอีก
Lasswell : You have hidden wisdom, Rain. We are needed here, just as you said.
ลาสเวล : นายมีความเฉลียวฉลาดซ่อนอยู่เรน เราเป็นที่ต้องการของที่นี่ อย่างที่นายบอก
Rain : See, Lasswell? It’s just like I always say… You can always trust a pretty face!
เรน : เห็นไหมล่ะลาสเวล อย่างที่ฉันบอกเป็นประจำแหล่ะ… นายสามารถเชื่อหน้าหล่อๆ นี้ได้เลย
Lasswell : Hmp. It is terrible well-hidden wisdom, isn’t it?
ลาสเวล : ฮึ่ม. เป็นความเฉลียวฉลาดที่แย่มากสินะ
เหล่าสัตว์ประหลาดที่ออกมาขวางทางเรนและลาสเวลกลับอ่อนแอไม่คณามืออัศวินทั้งสองแห่งแกรนด์เชลท์เอาเสียเลย มันถูกกำจัดได้โดยง่าย
Lasswell : Rain, stay focused.
ลาสเวล : เรน มีสมาธิหน่อย
Lasswell : No one would deny that you’re one of Grandshelt’s finest.
ลาสเวล : ไม่มีใครปฏิเสธว่านายคือหนึ่งในบุคคลที่เหมาะสมที่สุดแห่งแกรนด์เชลท์
Lasswell : But physical prowess only goes so far. You must develop discipline.
ลาสเวล : แต่ความกล้าหาญอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ นายต้องพัฒนาเรื่องระเบียบวินัยด้วย
Rain : I would have thought that right now, you’d be keeping both eyes on our foes.
เรน : ในตอนนี้ฉันคิดว่า นายควรเอาลูกตาทั้งสองของนายมองไปที่ศัตรูของเรานะ
Lasswell : Of course I am! What kind of fool do you take me for!?
ลาสเวล : แน่นอน! นายเล่นตลกอะไรของนาย นายทำไปเพื่ออะไร!?
เรนและลาสเวลถกเถียงไปพลางต่อสู้ไปพลาง ยังสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดได้อย่างต่อเนื่อง
Lasswell : Rain. For once in your life, listen to me.
ลาสเวล : เรน ครั้งหนึ่งในชีวิตของนาย ฟังฉันหน่อย
Lasswell : All the knights of Grandshelt look up to you.
ลาสเวล : อัศวินแห่งแกรนเชลท์มองมาที่นาย
Lasswell : Your words, your demeanor… You must lead by example.
ลาสเวล : คำพูดของนาย การกระทำของนาย นายต้องเป็นตัวอย่างให้พวกเขา
Lasswell : I don’t like to dictate your behavior… It will be a relief for both of us when I no longer have to.
ลาสเวล : ฉันไม่ชอบควบคุมพฤติกรรมของนายหรอกนะ มันจะดีกว่าสำหรับเราทั้งสองถ้าฉันไม่ต้องทำมัน
Rain : Who said I want to be a role model!? If you care so much, you be the shining example!
เรน : ใครบอกว่าฉันอยากเป็นต้นแบบล่ะ!? ถ้านายห่วงมากล่ะก็ นายเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดได้เลย
Lasswell : Rain… You are the most talented in our order. You know this as well as I.
ลาสเวล : เรน… นายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในภาคีของเรา นายรู้ดี
Lasswell : But this willfulness… this apathy! Can you not see how it reflects on you!?
ลาสเวล : แต่ความตั้งใจ… ขาดความกระตือรือร้น! นายไม่เห็นหรือว่ามันสะท้อนภาพของนายเป็นยังไง!?
Lasswell : Everything you do convince me I must watch you like a hawk.
ลาสเวล : ทุกอย่างที่นายทำมันโน้มน้าวให้ฉันต้องมองนายราวกับนายเป็นเหยี่ยว
ยังไม่ทันที่เรนจะตอบอะไร พื้นดินในวิหารกลับสั่นสะเทือน สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่มีผิวกายสีเขียวแข็งราวกับเกราะชั้นดีปกคลุมร่างของมัน
Rain : Could anything I do convince you to watch our foe instead?
เรน : มีวิธีไหนที่ฉันจะโน้มน้าวให้นายมองไปที่ศัตรูก่อนไหม?
Rain : Maybe this one will actually put up a fight.
เรน : บางทีเจ้านีอาจทำให้รู้สึกเหมือนได้ต่อสู้
Lasswell : We must watch our foe’s movement closely… and choose our tactics wisely.
ลาสเวล : เราต้องมองการเคลื่อนไหวของมันให้ดี… และเลือกยุทธวิธีให้เหมาะสม
เรนและลาสเวลเข้าโจมตีสัตว์ปรระหลาดตัวนั้น แต่ด้วยเกราะดีแข็งมากทำให้เรนและลาสเวลโจมตีได้ไม่รุนแรงเท่าที่ควร
Rain : Looks like we’re in a shock each time we hit the thing!
เรน : เหมือนเราถูกกระแทกกลับออกมาทุกครั้งที่เราโจมตีเจ้านั่น!
Lasswell : Then perhaps magic will better serve us. Rain, defend yourself!
ลาสเวล : ถ้าอย่างนั้น บางทีเวทมนตร์อาจช่วยเราได้ เรน ป้องกันตัวเองไว้ซะ!
Rain : You got it!
เรน : ตามที่นายขอเลย!
เรนและลาสเวลร่วมใช้เวทมนตร์โจมตีไปที่สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ตัวนั้น ดูเหมือนว่าผิวหนังที่แข็งแกร่งของมันจะไม่ทนทานต่อเวทมนตร์เท่าไร
Rain : Phew! That one actually made me break a sweat.
เรน : ฟิ้ว! เจ้านี่ทำให้ฉันต้องออกแรงพอตัวเลยล่ะ
Lasswell : Indeed.
ลาสเวล : เห็นด้วย
Rain : But our path is now clear. To the chamber of the crystal!
เรน : แต่เส้นทางของเราตอนนี้เปิดแล้ว รีบไปที่ห้องแห่งคริสตัลกันเถอะ!
———————————————
จบแล้วครับสำหรับสกู๊ป English from Games ในครั้งนี้ พาทุกท่านเข้าสู่โลกของ Final Fantasy Brave Envius ตอนที่ 2 : ต้นแบบ สำนวนที่นำเสนอในวันนี้มี in order, at any rate และ break a sweat
สำหรับสำนวนแรกคือคำว่า in order เป็นสำนวนที่ใช้เพื่อบอกว่าบางสิ่งบางอย่างอยู่ในรูปแบบที่ควรจะเป็น แปลได้ว่า เรียบร้อยดี
ตัวอย่างการนำไปใช้ครับ
I heard a loud noise upstairs. I go to see but everything seems in order.
ฉันได้ยินเสียงดังมากจากข้างบน ฉันขึ้นไปดูแต่ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี
———————————————
สำหรับสำนวนที่สองคือคำว่า at any rate เป็นสำนวนที่ใช้เกริ่นพูดบางสิ่งบางอย่าง แปลได้ว่า อย่างไรก็ตาม
ตัวอย่างการนำไปใช้ครับ
At any rate, I don’t think everything you said is true.
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดว่าทุกสิ่งที่นายพูดเป็นความจริง
———————————————
สำนวนสุดท้ายคือ break a sweat เป็นสำนวนที่ใช้เพื่อบอกว่าบางคนกำลังพยายามทำบางสิ่งบางอย่างอย่างมาก แปลได้หลากหลายครับ เช่น เหนื่อยพอตัว ออกแรงพอตัว และอื่นๆ ตามบริบทครับ
ตัวอย่างการนำไปใช้ครับ
This project made me break a sweat.
โครงการนี้ทำให้ฉันต้องเหนื่อยพอตัว
———————————————
จบแล้วครับสำหรับตอนที่ 2 ของ Final Fantasy Brave Envius ในตอนที่ชื่อว่า ต้นแบบ ในคราวหน้า เรนและลาสเวลจะพบกับอะไรในห้องภายในสุดของวิหารแห่งพสุธา มาติดตามไปพร้อมกันในสกู๊ป English From Games ครับ สวัสดีครับ
Higashi