สำหรับคีย์บอร์ดในซีรี่ย์ MEKA นั้น ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพและความทนทานที่รับประกันได้เลยว่า สามารถใช้งานได้นานอย่างแน่นอน ส่วนตัวใหม่ล่าสุดในซีรี่ย์นี้ก็คือ MEKA PRO ส่วนความสามารถที่โดดเด่นของมันเที่ยวนี้ก็คือเรื่องของฟังก์ชั่น On-the-Fly ที่เลือกปรับแต่ง Marco และรูปแบบของแสงไฟได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรม อีกทั้งตัวคีย์บอร์ดนี้ก็ได้ใช้ Cherry MX Blue Key Switches ทำให้กดใช้สนุกนุ่มมืออีกด้วย
ข้อมูลสเปค
รูปแบบ : Mechanical
ตัว Switch ของปุ่ม : Cherry MX Blue Key Switches
น้ำหนัก : 1.20 kg
ขนาด : 439.8 x 132.6 x 36 mm
ปุ่ม Marco : 6 ปุ่ม
ราคา : 3,490 บาท
ส่วนเสริม : สำหรับความโดดเด่นของคีย์บอร์ดตัวนี้เลยก็คือเรื่องของฟังก์ชั่น On-the-Fly ที่เราสามารถเลือกปรับแก้ไข Marco ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรม Software อะไรเพิ่มเติมในคอม สามารถทำได้บนคีย์บอร์ดไปเลย และยังปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของแสงไฟตัวคีย์บอร์ดได้อีกด้วย จะมีให้เลือกโหมดของแสงไฟทั้งหมด 6 รูปแบบ นอกจากนั้นยังมีการปรับโหมดเฉพาะของแสงไฟสำหรับการเล่นแต่ละเกมได้อีกด้วย โดยจะแยกเป็นทั้งหมด 4 ประเภทเกม FPS, MOBA, RTS, MMO ส่วนรายละเอียดวิธีการปรับต่างๆ ก็ไม่ยุ่งยากเลย แต่หากไม่รู้จริงๆ ก็ยังมีคู่มือที่บอกรายละเอียดเรื่องปุ่มคีย์ลัดต่างๆ เอาไว้ให้อยู่แล้ว
รีวิว MEKA PRO
คีย์บอร์ด MEKA PRO ตัวนี้ ได้ใช้ Cherry MX Blue Switches ต้องบอกเลยว่ากดพิมพ์ปุ่มได้อย่างสนุกมือ เสียงก็และไม่ดังมากจนเกินไป เหมาะทั้งสำหรับเอาไว้เล่นเกมและพิมพ์งาน ส่วนเรื่องของแสงไฟจะมีเฉพาะแสงสีแดงเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ แต่สามารถปรับโหมดได้หลากหลายพอสมควร มีถึง 6 โหมดด้วยกัน นับว่าเป็นลูกที่ไม่ธรรมดาและทำให้ดูสวยงามไม่ใช่น้อยในเวลาที่เราเล่น
ส่วนเรื่องของ Marco นั้น จะมีปุ่มที่สามารถเลือกปรับใส่ Marco ได้ทั้งหมด 6 ปุ่ม จะเป็นตัวเลข 1-6 ของส่วน Numpad (ปุ่มตัวเลขทางด้านขวาของคีย์บอร์ด) สำหรับวิธีการตั้ง Marco ก็ให้กดที่ปุ่มสีแดง MK ที่อยู่ขวาบน จากนั้นให้กดปุ่ม Fn พร้อมกับตัวเลขใดตัวหนึ่งตั้งแต่ 1-6 ที่อยู่ตรง Numpad ทีนี้ก็เป็นการเริ่มตั้ง Marco แล้ว เมื่อเซทเอาไว้เสร็จก็ให้กดที่ปุ่ม MK เพื่อปิดการทำงานของมัน ทีนี้ก็ให้เรากดที่ปุ่มตัวเลขที่ตั้งไว้ ก็จะเป็นการเริ่ม Run Marco ที่ตั้งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลง Software เพิ่มเพื่อมานั่งตั้ง Marco ในโปรแกรมเหมือนกับคีย์บอร์ดตัวอื่นๆ นั่นเอง อีกทั้งตัวคีย์บอร์ดนี้ก็มี Memory ในตัว ทำให้เมื่อเปลี่ยนเครื่องคอมก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งเซท Marco ใหม่เลย
โดยรวมแล้วก็เป็นคีย์บอร์ดที่แข็งแกร่งทนทานมั่นใจเรื่องอายุการใช้งานของมันได้เลยว่าใช้ได้ยาวหลายปี และตั้ง Marco ได้ง่าย รวมไปถึงปุ่มก็เป็นถึง Cherry MX Blue Switches กดง่ายสนุกมือ ส่วนเรื่องของแสงไฟถึงแม้ไม่สามารถปรับสีได้แบบ RGB แต่สีแดงสีเดียวก็ดูดีไม่ใช่น้อย
