หลังจากที่เราได้เดินทางเพื่อปลดปล่อยเกาะสึชิมะในเกม Ghost of Tsushima และกลายเป็นอีกหนึ่งเกมขึ้นหึ้งของเครื่อง PlayStation ไปแล้ว ทั้งความสวยงามของกราฟิก ระบบเกมเพลย์ที่เร้าใจ แถมด้วยเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น จึงทำให้เกมนี้เข้าไปเป็นเกมอันดับ 1 ที่หลายคนชื่นชอบไปอย่างง่ายดาย โดยวันนี้นักรบปีศาจแห่งสึชิมะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Director’s Cut ที่มาพร้อมเนื้อหาเสริมให้เราได้ออกไปผจญภัยเนื้อเรื่องใหม่รวมถึงมีการเพิ่มระบบกับลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามามากมายและที่สำคัญคือสามารถโอนย้ายเซฟจาก PS4 มา PS5 ได้แบบไม่ต้องเล่นใหม่ ซึ่งเราจะมารีวิวการเล่นโดยรวมใน Ghost of Tsushima Director’s Cut ให้ได้อ่านกันครับ
กราฟิกสวยงามขึ้นไปอีกขั้นพร้อมรองรับฟีเจอร์ของจอย PS5 DualSense
Ghost of Tsushima Director’s Cut มีออกมาให้เล่นกันทั้งบน PS4 และ PS5 ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะเข้าไปลุยในเวอร์ชั่นของ PS5 ที่ถือว่าจัดเต็มในทุกๆ ส่วน อย่างแรกที่เห็นได้ชัดก็คือการรองรับการเล่นแบบ 4K บนเฟรมเรต 60FPS ซึ่งทำให้ภาพที่สวยงามอยู่แล้วยิ่งสวยงามขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะรายละเอียดพื้นผิว แสงเงาต่างๆ สภาพแวดล้อมสภาพอากาศที่ยิ่งสมจริงและเร้าอารมณ์ในการเล่นได้ดีเลยทีเดียว ใครเล่นบนทีวีดีๆ นี่บอกเลยว่าคุณภาพ HDR ความดำความคม หรือส่วนที่สว่างสดใสก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน ในส่วนของฉากคัทซีนก็ดูดีขึ้นลื่นไหลขึ้นและไม่มีการโหลดฉากนานๆ
ส่วนเรื่องเสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นในเวอร์ชั่นนี้ก็มี Sync การขยับปากให้เข้ากับเสียงพากย์ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถเล่นเกมในแบบเสียงพากย์ญี่ปุ่นและเปิดซับไทยไปด้วย ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เสียงที่ปกติดังอยู่แต่ในทีวี พอมาเวอร์ชั่นนี้ก็มีปรับปรุงให้มาดังที่ตัวจอยด้วย เช่นเสียงจังหวะดาบปะทะกับโล่ เสียงคำกลอนไฮกุ และอีกหลายเสียงที่เกิดขึ้นในเกม
ในเวอร์ชั่น PS5 นี้ตัวเกมมีการรองรับฟีเจอร์ของจอย DualSense ทั้งในส่วนของ Haptic feedback การสั่นที่สมจริงในจังหวะการปะทะดาบหรือการสั่นอื่นๆ ในเกมที่สั่นแบบถูกทิศทางมาก และ Adaptive trigger ที่ทำให้การยิงธนูมีแรงดึงแรงต้านของการกดปุ่ม R2 ได้สมจริงสุดๆ ง้างแต่ละทีออกแรงกดกันสะใจแน่นอน ธนูเล็กกับธนูใหญ่ก็ใช้แรงไม่เหมือนกันด้วย บอกเลยว่าต้องไปลองครับ
เนื้อเรื่องใหม่เข้มข้นถึงใจ (บทความนี้ไม่มีการสปอย์เนื้อเรื่อง)
Ghost of Tsushima Director’s Cut จะมีส่วนเสริมที่เพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ของเกาะอิคิ (Iki Island) ซึ่งจะสามารถเข้าเล่นได้หลังจากผ่านเนื้อเรื่องหลักไปจนจบ Act 2 ของตัวเกมหลัก บนเกาะที่มีทะเลน้ำสีฟ้าล้อมรอบแห่งนี้จิน ซาไค ตัวเอกของเกมจะต้องต่อสู้กับมองโกลลึกลับที่มีผู้นำอย่างนางพญาอินทรี หมอผีสุดโหดเหี้ยมที่ทำให้ชาวเกาะหวั่นกลัว โดยจินจะต้องร่วมมือกับพัมธมิตรใหม่เพื่อต่อกรและหยุดยั้งกองทัพมองโกลนี้ ก่อนที่พวกมันจะบุกเข้าไปโจมตีเกาะหลักอย่างสึชิมะ
สำหรับบรรยากาศโดยรวมของเกาะนี้จะมีทั้งจุดที่สวยงามและจุดที่ทิ้งร่องรอยของสงครามในอดีตเอาไว้ เราจะพบสถานที่ใหม่ๆ มากมาย มีจุดถ่ายรูปสวยๆ อยู่เพียบ มีสัตว์ป่าใหม่ๆ ที่ทางทีมพัฒนาเคยโชว์ให้ดูนอกเหนือจากเดิมที่มีแค่สุนัขจิ้งจอก เช่น ลิง แมวป่า กวาง ซึ่งจะมีมินิเกมใหม่ให้เล่นกันด้วยคือ การเป่าขลุ่ย
เกมเพลย์ที่มีการเพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามา
ตัวเกมในเวอร์ชั่นนี้มีการเพิ่มระบบเข้ามาพอสมควร หลักๆ รูปแบบการเล่นยังคงเหมือนเดิม แต่ส่วนที่เพิ่มมาคือศัตรูบนเกาะนี้จะมีความท้าทายขึ้นเพราะพวกมันจะมีการเปลี่ยนกระบวนท่าในการสู้ด้วย จากเดิมที่บางตัวจะใช้อาวุธเดียวให้เราเปลี่ยนกระบวนท่าที่มีอยู่ 4 แบบ มาจัดการให้ถูกกับอาวุธของศัตรู คราวนี้พวกมันมีการเปลี่ยนอาวุธในการต่อสู้ด้วย ทำให้เราต้องคอยสลับกระบวนท่าให้ถูกอยู่เสมอเพื่อจัดการได้ง่ายขึ้น แถมพวกมองโกลรอบนี้ยังมีประเภทใหม่อย่างคนทรง ที่จะคอยมาช่วยแจกบัฟให้อีกต่างหาก รวมถึงทหารร่างยักษ์แบบใหม่ที่จัดว่าโหดจริงๆ ส่วนอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาก็คือวิชาใหม่ของม้าที่จะทำให้การพุ่งทะลวงศัตรูตามรายทางเป็นอะไรที่สะใจมาก นอกจากนี้ก็จะมีพวกเกราะใหม่รวมถึงเครื่องรางใหม่ด้วย ส่วนคนที่อยากเปลี่ยนปุ่มกดบนจอยก็สามารถที่จะปรับตั่งค่าได้แล้วเช่นกัน
สรุปภาพรวม
Ghost of Tsushima Director’s Cut ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ โดยเฉพาะการรีดประสิทธิภาพของ PS5 ทำให้เล่นเกมได้ไหลลื่นไป ฉับไว ไปพร้อมๆ กับภาพกราฟิกที่สวยงามและการใช้งานฟีเจอร์ของจอย DualSense ที่เพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องราวบนเกาะอิคิก็น่าสนใจและชวนให้ติดตาม เกมเพลย์มีความท้าทายขึ้น ใครที่มี PS5 บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ส่วนคนที่เล่นเกมนี้อยู่แล้วก็เหมาะที่จะซื้อส่วนเสริมนี้มาลุยต่อครับ และในวันที่ 3 กันยายนก็จะมีการอัพเดทโหมดแข่งขันใหม่เข้ามาใน Legends Mode ด้วย
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว