เกม Watch Dogs ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ของทาง Ubisoft ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็ได้ปล่อยภาคใหม่อย่าง Watch Dogs: Legion ออกมาให้เราได้สวมบทเป็นเหล่าแฮกเกอร์กันอีกครั้ง แต่การมาคราวนี้ตัวเกมมีพัฒนาลงให้เล่นกันบนเครื่องคอนโซลยุคใหม่ด้วยทั้ง PS5 และ Xbox Series X/S แต่สำหรับที่เราหยิบมารีวิวให้อ่านกันในครั้งนี้เป็นการเล่นบนเวอร์ชั่น PS4
สำหรับเรื่องราวของ Watch Dogs: Legion จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ Watch Dogs 2 โดยเล่าถึงมหานครลอนดอนในโลกอนาคตอันใกล้ ซึ่งมีองค์กร DedSec กลุ่มแฮกเกอร์สาขาลอนดอนที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มทหารรับจ้าง Albion ที่ถูกรัฐบาลลอนดอนว่าจ้างให้รักษาความสงบในเมือง โดยในลอนดอนเองก็มีการนำเอา CtOS มาใช้งานเพื่อให้ทุกอย่างถูกควบคุมผ่านดิจิทัล แต่ฝ่ายรัฐบาลเองก็ล้มเหลวในการปกครอง จนเกิดเรื่องราวที่ผู้ก่อการร้ายระเบิดเมืองและโยนความผิดให้กับเหล่า DedSec จนสมาชิกถ้าไม่ตายก็ถูกจับขังจนหมด และเราเองจะได้รับหน้าที่เป็นสมาชิกใหม่ของ DedSec แห่งลอนดอนเพื่อรวบรวมสมาชิกขึ้นมาใหม่และต่อต้านอำนาจเผด็จการของ Albion นั่นเอง ส่วนที่เหลือจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ต้องไปลองเล่นกันดูครับ
ความแปลกใหม่ที่สุดของภาคนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของคอนเซ็ปต์ที่ว่า “Play as anymore” หรือการเล่นเป็นใครก็ได้ ซึ่งทางผู้พัฒนาบอกว่า NPC ทุกคนในเกมนี้เราสามารถที่จะ Recruit หรือดึงมาเข้าเป็นสมาชิกของ DedSec และเลือกที่จะเล่นเป็นคนนั้นๆ ได้หมด โดยที่ตัวละครแต่ละตัวจะมีทั้งภูมิหลัง สกิลหรือความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นคนกวาดถนน พนักงานก่อสร้าง คนขับเทกซี่ หรืออดีตสายลับ ไปจนถึงคนชราเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อได้ลองเล่นดูแล้วก็พบว่ามันสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ เพียงแต่เราจะต้องทำภารกิจเพื่อดึงตัวละครนั้นๆ เข้ามาในทีมเราก่อน มันถือเป็นความสนุกมากๆ ที่เราสามารถใช้มือถือในเกมเพื่อดูประวัติหรือความสามารถของ NPC แต่ละตัว และหากถูกใจคนไหนก็จัดการชวนเข้าทีมได้เลย แต่ก็ต้องดูก่อนว่าตัวละครบางตัวอาจจะเกลียด DedSec อยู่ก็ได้เช่นกัน
ในส่วนของ Gameplay ใน Watch Dogs: Legion เป็นเกม Open World ที่คล้ายๆ กับเกมอื่นก็คือผู้เล่นจะต้องทำภารกิจเนื้อเรื่องเพื่อเปิดพื้นที่ไปเรื่อยๆ รวมถึงทำภารกิจยิบย่อยที่มีอยู่มากมายควบคู่กันไป หรือจะทำภารกิจพิเศษเพื่อปลดล๊อคแต้มสกิล หรือของรางวัลต่างๆ ก็ได้ นอกจากการใช้เทคโนโลยีอันมากมายที่ช่วยในการแฮกหรือทำภารกิจแล้ว ระบบการต่อสู้ในภาคนี้ดูเหมือนจะเพิ่มเติมในส่วนของการต่อสู้ประชิดเข้ามาได้ดีกว่าเดิม ทั้งการหลบหรือหาจังหวะสวนกลับ ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะมีทักษะในการต่อสู้และท่าทางที่ไม่เหมือนกันอีก
ในภาคนี้เราจะสามารถที่จะบังคับโดรนขนาดใหญ่หรือขึ้นไปยืนบนโดรนเพื่อคอยพาเราไปยังที่ต่างๆ ได้ ส่วนการบังคับยานพหานะหรือรถในภาคนี้ก็ถูกแก้ไขให้ควบคุมกันง่ายขึ้นกว่าเก่าแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะในลอนดอนมันรถเยอะเกินไปหรือเปล่าทำให้การขับรถไปบนถนนในเกมนี้ดูไม่ค่อยคล่องตัวและน่าเบื่อเกินไป ส่วนระบบ Fast Travel ที่ใช้เป็นรถไฟใต้ดินนั้นบน PS4 โหลดหน้าจอช้าเอามากๆ เห็นทีคงต้องรอเล่นบน PS5 ไปเลยน่าจะดีกว่า
โดยรวมแล้ว Watch Dogs: Legion น่าจะเป็นเกมที่เหมาะกับการเล่นบนเครื่องคอนโซลยุคใหม่หรือบน PC ที่มีสเปคสูงไปเลยจะดีกว่าในเรื่องของกราฟิกและความไหลลื่น ความโดดเด่นในการเล่นเป็นใครก็ได้ในเกมนี้คือส่วนที่สนุกที่สุดจริงๆ เนื้อเรื่องกับ Gameplay มีการพัฒนาขึ้นในทางที่ดีแต่ก็ยังไม่ถือว่าดีมาก ใครที่ชอบเกม Action Open World ที่เกี่ยวกับการแฮกหรือเป็นแฟนซีรีส์นี้อยู่แล้วก็ลองไปหามาเล่นกันดูครับ
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว