สำหรับเกมเมอร์ การเลือกเกมมิ่งคีย์บอร์ด ที่ถูกใจได้สักรุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูทั้ง รูปลักษณ์ องค์ประกอบ วัสดุ และเทคโนโลยี รวมถึงความทนทาน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหล่าเกมเมอร์ ให้ความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นๆ ที่ว่ามา นั่นคือ สิ่งที่เรียกว่า คีย์สวิทช์ (Key switch) เพราะไม่ใช่แค่บ่งบอกการเป็นแค่ Mechanical keyboard เท่านั้น แต่ยังสะท้อนบุคลิกการเป็นเกมเมอร์ของคุณอย่างชัดเจนอีกด้วย
อย่างไรก็ดี คีย์สวิทช์บนเกมมิ่งคีย์บอร์ดนั้น มีมากหมายหลายค่าย แต่สิ่งหนึ่งที่จะคล้ายกันก็คือ เอกลักษณ์ของคีย์แต่ละสี ที่จะออกไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกอยู่ไม่น้อยเลย อาทิ Red, Green, Blue, Purple, Black ไปจนถึง Silver และอื่นๆ แต่วันนี้เราจะมาแนะนำคีย์สวิทช์บนเกมมิ่งคีย์บอร์ด ที่พบเห็นกันทั่วไป และได้รับความนิยมกันในท้องตลาด ว่าคีย์สวิทช์แต่ละแบบนั้น มีคุณสมบัติอย่างไร และเลือกแบบใดดี? ให้เหมาะกับเกมเมอร์เช่นคุณ
•
Black Switch – Linear Switch: เป็นแบบ Linear Switch ให้การตอบสนองที่ไว
ทำงานตั้งแต่เริ่มกดปุ่มลงไป จนยกนิ้วขึ้นมา ต้องกดลึกพอสมควร
และกดต่อเนื่องได้ดี เรื่องเสียง ค่อนข้างดัง เหมาะกับการเล่นเกม
ที่ต้องกดรัวๆ
• Red Switch – Linear Switch: เป็นแบบ Linear Switch
เช่นเดียวกัน จุดเด่นอยู่ที่เสียงการกดที่เบา ไม่ต้องกดลึก ตอบสนองได้ไว
แต่กดได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ใช้น้ำหนักการกดที่น้อยกว่า Black
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมที่ต้องกดรัวๆ แต่ไม่มีเสียงรบกวนคนรอบข้างมากนัก
• Blue Switch – Tactile Switch: เป็นแบบ Tactile switch หรือแบบกลไก ตามที่หลายคนทราบ จุดเด่นอยู่ที่การตอบสนองค่อนข้างไว
แต่ต้องออกแรงกดมากว่า Linear switch เพราะเป็นกลไก 2 ระดับ
และต้องกดลึกลงไป จนกว่าจะมีเสียงคลิ๊ก ข้อดีคือ
ป้องกันนิ้วไปโดนแบบไม่ตั้งใจ อาจไม่เหมาะกับการเล่นเกมแบบที่ต้องกดรัวๆ ถี่ๆ มากนัก
•
Brown Switch – Tactile Switch: เป็นแบบ Tactile switch เช่นเดียวกัน
เป็นแบบ 2 จังหวะ แต่จะไม่มีเสียงคลิ๊ก ให้สัมผัสและการตอบสนองแบบเดียวกับ Blue เรียกว่าเอาใจคนที่ชอบจังหวะการกดแบบ Blue แต่ไม่มีเสียงรบกวน เหมาะกับการเล่นเกมทั่วๆ ไป
นอกจากเลือกคีย์สวิทช์ให้เหมาะกับความชื่นชอบแล้ว ก็จะต้องหาวิธีในการเพิ่มความสามารถให้กับเกมมิ่งคีย์บอร์ด เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในเกม และโอกาสในการคว้าชัยชนะ สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือ การปรับแต่งคีย์บอร์ด อย่างเช่น NGenuity ที่เป็นซอฟต์แวร์จากทาง HyperX ให้เกมเมอร์ สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ บนคีย์บอร์ดได้ ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ RGB หรือปุ่มมาโคร (macro) ก็ตาม โดยให้ผู้ใช้ตั้งค่าปุ่มแต่ละปุ่ม ในการเล่นเกมแต่ละเกมได้ ไม่ว่าจะเป็น Action, RTS, BOBA หรือ Sport ก็ตาม อีกทั้งเลือกเก็บไว้เป็นโพรไฟล์ เพื่อใช้ร่วมกับเกมต่างๆ (ขึ้นอยู่กับคีย์บอร์ดแต่ละรุ่น) บางรุ่นสามารถบันทึกไว้บนหน่วยความจำคีย์บอร์ดได้หรืออาจจะบันทึกด้วยซอฟต์แวร์ผ่านระบบ Cloud ให้สามารถนำคีย์บอร์ดไปใช้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้อีกด้วย
HyperX Alloy Origins เกมมิ่งคีย์บอร์ดใหม่ที่ทาง HyperX เป็นผู้ออกแบบคีย์สวิทช์เอง ด้วยการใช้สวิทช์ HyperX Aqua Switch ที่เป็นแบบ Tactile ซึ่งเป็นกลไก 2 จังหวะ เหมาะกับเกมเมอร์ ที่ต้องการคีย์สวิทช์ตอบสนองไว ให้ความทนทาน โดยสวิทช์ที่ทาง HyperX นำมาใช้ใน Origins นี้ ใช้แรงกด 45g และระยะตอบสนอง ที่ค่อนข้างสั้นเพียง 1.8mm กับอายุการใช้งาน 80 ล้านครั้ง ออกแบบให้บอดี้ที่มีความทนทาน รองรับกับการเล่นเกมอันหนักหน่วง โครงสร้างอะลูมิเนียม ฐานด้านใต้ปรับได้ 3 ระดับ สำหรับเกมเมอร์ให้สามารถปรับได้ตามความถนัด และมาพร้อมกับแสงไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งเองได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY รวมถึงฟีเจอร์ที่สำคัญในการเล่นเกม อาทิ Game Mode, Anti-Ghosting หรือ N-Key Rollover เป็นต้น พร้อมเมมโมรีและสายถักที่ถอดแยกได้ ออกแบบมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ
กองบรรณาธิการเว็บไซต์ www.compgamer.com เน้นข้อมูลเทคนิค ข่าวสารอัพเดท เกมใหม่ เกมน่าเล่น อีสปอร์ต