สำหรับแพทในวันนี้โดยส่วนตัวคงไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก “หลังหัก หลังเดาะ คอเคล็ด!” อยากจะถามทีมงานจริง ๆ ทำไมถึงโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ หลังจากแพทกล้าหาญตัวละครจากไทยเพียงหนึ่งเดียว และแพทกล่องโคลอี้คูณสองเพิ่งผ่านพ้นไปหมาด ๆ เกมกลับข้ามแพททะลุมิติเวลา พา Elysia มาสู่ยุคปัจจุบัน ณ เซอเวอร์ Asia/Global แถมยังควงแขนมาอวดโฉมพร้อมกันกับ Helenia หรือที่เรียกกันว่า “วาแดง” ที่ผ่านการปลุกพลังแล้ว
.
ก่อนจะรีวิว ก่อนจะดูความสามารถตัวละครกัน… ผมอยากจะบอกว่า ตัวละครทั้งสองตัวนี้ หากมีโอกาสก็ทำเก็บไว้เถอะ กำไรชีวิต… แค่มีไว้ดูเล่นก็สบายตามากมาย ดีกว่ามองพวกกล้าม ๆ เป็นไหน ๆ (คนอ่านคงชี้หน้าแล้วบอกว่า แกไม่กะจะรีวิวแบบเป็นกลางแต่แรกเลยใช่มั้ย!)
.
อะแฮ่ม… สำหรับแพทนี้ก็ไม่คิดว่าจะรีวิวแบบเป็นกลางได้จริง ๆ นั่นแหละ อวยสุดฤทธิ์! (ยังมีหน้าด้านมาตอบอีก!)
Queen Elysia หรือที่จากนี้จะเรียกง่าย ๆ ว่า อลิเซีย เป็นตัวละครธาตุสมดุลที่สวยที่สุดครับ (เกี่ยวเหรอ??) โดยพื้นฐานของตัวละครนี้ในเกาหลี เป็นสายป้องกันสถานะผิดปรกติให้กับทีมเช่นเดียวกับสไปค์ แต่เนื่องจากเซอเวอร์ที่เรา ๆ ท่าน ๆ เล่นกันนี่ค่อนข้างอินดี้ หลายคนจึงรอลุ้นกันอยู่ว่าอลิเซียจะออกมาจากรูปแบบไหน… และในท้ายที่สุดความกังวลใจก็ผ่านพ้น เมื่ออลิเซียมีความสามารถในการป้องกันสถานะผิดปรกติให้ทีมเช่นเดิม และยังมีความเร็วเหนือกว่าสไปค์อยู่ “1” หน่วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสไปค์ได้ตกงานอีกรอบแน่ ๆ
ความสามารถในการเอาตัวรอดของอลิเซียจัดว่าเด็ด อมตะรวม 4 เทิร์นไม่โดนเร่งโล่หมดง่าย ๆ และจะไม่มีทางตายเพราะสกิลทะลุในคราเดียวเพราะมีความสามารถแบบเดียวกับเอซ หากโดนโจมตีถึงตายจะเหลือ HP 1 เนื่องจากโดยพื้นฐานอลิเซียจะอยู่ในทีมสายเร็วมากกว่าทีมสายถึก ดังนั้นความสามารถนี้จึงดูไม่เลวนัก (ถ้าเป็นทีมสายถึกสไปค์ที่บล็อค 100% จะทนทายาทกว่า)
สกิล Active 1 : Heavenly Spark (Cooldown 95 วินาที)
.
โจมตีกายภาพด้วยความแรง 60% จำนวน 2 ครั้ง 5 เป้า มีความสามารถพิเศษคือ “กดฮีลของฝ่ายตรงข้ามลง 50%”
ถ้าให้พูดตามตรงก็คงต้องบอกว่าไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าไหร่ แต่ก็เสียเปล่าน้อยกว่ากระโดดเอาน้ำแข็งทุบของสไปค์หลายขุม ถึงความแรงไม่มาก แต่ความสามารถกดฮีลแบบเดียวกับเอซก็สร้างความสับสนให้ทีมถึกได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
สกิลนี้น่าจะเป็นทีเด็ดจริง ๆ ของอลิเซียเลยครับ “Starfall”
.
นำมาด้วย fixed damage 3000 จำนวน 4 เป้าหมาย แบบไม่สนพลังโจมตีหรือป้องกัน เร่งเทิร์น 2 เทิร์น และเพิ่มคูลดาวน์ 20 วินาที
.
จะว่าไปก็น่าขัดใจหน่อย ๆ ก็ได้เนื่องจาก fixed damage 3000 นั้นเรียกว่าไม่แรงมาก ยิ่งเป็นการโจมตีครั้งเดียวก็ลดเกราะอีกฝั่งได้น้อยมาก แถมยังไม่ใช่สกิลทะลุแบบเดียวกับอีวานทำให้ติดเกราะอมตะ จะมีโดดเด่นก็ตรงเพิ่ม cooldown ฝ่ายตรงข้าม
.
แต่การเพิ่ม cooldown ฝ่ายตรงข้าม 4 เป้านั้นก่อให้เกิดความเสี่ยงบางอย่างขึ้นมา หากใช้ตอนศัตรูยังมีครบ 5 ครับ ความเสี่ยงที่ว่าได้แก่…
.
1. สกิล 4 เป้านั้นมักจะโดน 4 เป้าแรกก่อน และตัวละครที่ 5 ซึ่งคนส่วนใหญ่ซ่อนไว้นั้นมักเป็นตัวปัญหาที่ออกสกิลมาทีแล้วหูดับตับไหม้กันเป็นแถว ๆ การไปเพิ่มคูลดาวน์ตัวอื่นหมายความว่าล็อคให้เจ้าตัวละครที่ 5 นั้นออกสกิล 2 รอบสวนกลับครับ (ก็ขึ้นกับเอไอว่ามีโอกาสโดนตัวละครที่ 5 มากน้อยเพียงใดด้วย)
.
2. เมื่อทีมฝั่งตรงข้ามมี 5 ตัว การโดนแค่ 4 หมายถึงเหลือ 1 อย่างที่กล่าวไว้ในข้อแรกครับ ทีนี้สิ่งสำคัญก็คือ “แล้วตัวที่เหลืออยู่นั่นน่ะได้ออกสกิลไปบ้างหรือยัง?” ถ้าคำตอบคือยัง การเพิ่ม cooldown ถือว่าไร้ค่าเลยเพราะอีกฝั่งก็จะออกสกิลสวนกลับมาได้อยู่ดี แต่ถ้าอีกฝั่งออกสกิลมาแล้ว ฝั่งเราจะได้ออกสกิลต่อเนื่อง 1-2 ครั้ง
มาถึงสกิลอเวกกันบ้าง “Summons from Terra”
.
เป็นสกิลบัฟที่อ่านภาษาอังกฤษแล้วงง ๆ สำหรับการสร้างเกราะป้องกัน 2 ครั้งไม่มีอะไรให้งงครับ แต่ป้องกันสถานะผิดปรกติ 2 ครั้งนี่ค่อนข้างประหลาด (ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้คารินอเวกก็เขียนคล้าย ๆ กัน ลงท้ายก็เขียนผิดไม่ใช่กันสถานะครั้ง แต่กันเป็นเทิร์น…)
.
หากถามว่าดีไหม… ก็น่าจะดีครับ เพราะด้วยความเป็นสกิลอเวก กว่าจะได้ใช้งานกันจริง ๆ ก็ผ่านร้อนผ่านหนาว เกราะสหายทั้งหลายอาจสลายหายไปหมดหรือเกือบหมด การป้องกันไว้สักหน่อยก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง ไม่รวมการป้องกันสถานะที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าถึงเวลามันจะโดนเร่งหมดแล้วเช่นกัน
.
อย่างไรก็ดี… ผมมองว่ามันเป็นการป้องกันเกินเหตุนะ กว่าจะถึงจุดนั้นบางทีสิ่งที่เราต้องการอาจไม่ใช่เกราะ แต่เป็นการสังหารศัตรูให้สิ้น ไม่ใช่เปิดโอกาสให้อีกฝั่งสวนกลับ จึงดูเป็นดาบสองคมชอบกล (แต่เกราะ 2 ครั้งก็ไม่น้อยนะครับ ถ้าไม่ซวยโดนสกิลโหด ๆ จริง ๆ ก็นับว่าช่วยชีวิตได้เลยล่ะ!)
.
สรุปอลิเซีย
1. สวย
2. สกิลมีน่าขัดใจหลายจุด (ในโหมดอารีน่า แต่ถ้าเล่นโหมดอื่นโดยเฉพาะหอใต้ดิน สลับยืนกับสไปค์จะมีประโยชน์มาก)
3. น่าขัดใจน้อยกว่าสไปค์หลายขุม
4. เป็นตัวละครที่เก่งพอประมาณหากเทียบกับตัวเมต้าอื่น ๆ แต่นับว่าโคตรเก่งเมื่อนำไปเทียบกับนายสไปค์ซึ่งมีหน้าที่เดียวกันครับผม 😀
รีวิวราชินีจบไปแล้ว ก็ถึงคิวของนางฟ้าหน้ามนกันบ้าง… เฮเลเนียเวอร์ชั่นนี้ช่างชวงหลงนัก ไม่ทราบว่าไปโรงพยาบาลไหนมา ส่วนเรื่องความสามารถนั้นหรือ… #แสยะยิ้ม
อยากจะถามจริง ๆ ว่าเจ๊โกรธแค้นใครเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ มีอย่างที่ไหนสกิลติดตัวป้องกันสกิล 3 เป้า 6 เทิร์น… นี่มันโดนพี่กล้าเต็ม ๆ เลยมั้ยล่ะ (แต่กันปาสคาลไม่ได้จ้า ขานั้นทะลุบัฟ) แล้วความสามารถท้ายสุดนั่นอะไรกัน ลดบล็อคฝั่งตรงข้าม 50% จำนวน 6 เทิร์น???
.
ถ้าความสามารถเป็นอย่างนี้จริง ๆ เห็นทีจะกลายพันธุ์หลุดจากความเป็นแท้งค์ในไม่ช้าแล้วมั้ง
มาดูที่สกิลถัดมากันเถอะ Celestial Light สกิลดูดเลือดเดิม ๆ เพิ่มเติมคือลดพลังโจมตีฝ่ายตรงข้าม (เราไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรมา แต่กลับมาทีนี้ก้าวร้าวขึ้นเยอะจริง ๆ)
เพื่อให้สมกับเป็นแท้งค์ สกิลโล่ของวาแดงก็ได้อัพเกรดขึ้นมาอีกเล็กน้อย บล็อค 100% จำนวน 3 เทิร์น ยั่วยุศัตรูและ เพิ่มพลังป้องกันของตนเอง 50%
เห็นสกิลนี้แล้วก็คงทำได้แค่หัวเราะ… แต่ที่ผ่านมาวาแดงก็ไม่ใช่ตัวละครที่เกิดมาเพื่ออารีน่าอยู่แล้ว แต่ควรอยู่ในโหมดอื่นที่สามารถกดสกิลเองได้ ซึ่งสกิลนี้ก็เป็นเครื่องเน้นย้ำครับ เหตุผลก็คือ… สกิลของวาแดงนั้นมีประโยชน์มากครับ แต่ไม่ใช่ของที่รอเวลาได้
.
อาทิเช่นมาถึงกดโล่ล่อศัตรูเลย ใช้สกิลดูดเลือดลดโจมตี แล้วก็บัฟลดดาเมจพร้อมเพิ่มบล็อคให้เพื่อน ๆ ในทีม อันจะช่วยสนับสนุนทีมได้อย่างมหาศาลเพียงลำพัง แต่ถ้าเอาลงอารีน่าแล้วช่วยบัฟเพื่อนตอนทีมยืนขาตายใกล้ดับก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเช่นกัน
.
สรุปสั้น ๆ เจ้าแม่ไต่หอในวันนั้น ก็ยังเป็นเจ้าแม่ไต่หอในวันนี้เช่นเดิม นี่แหละครับว่าแดง “เฮเลเนียอเวก” แต่ไม่ว่าจะเป็นเฮเลเนีย หรืออลิเซีย ก็เป็นดอกไม้ที่ควรมีไว้ประดับทีม เพื่อเพิ่มสีสันให้ชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น… ในยุคที่ตัวละครบ้ากล้ามเริ่มมีมากจนเกินไปเช่นนี้ครับ TT
By..Tongfar