สองสามวันมานี่ มีข่าวการปิดตัวของเกมออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะได้ยินมาเยอะ.. แต่ทุกครั้งที่ได้ยินก็รู้สึกใจหายอยู่ร่ำไป และจากที่ได้ดูและวิเคราะห์แล้วสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกมออนไลน์ต้องปิดตัวลงมีดังนี้
• หมดสัญญา, ผู้พัฒนาไม่พัฒนาต่อ
อย่างที่ได้ทราบกันอยู่แล้ว ว่าเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ที่เปิดให้บริการในบ้านเรานั้น ล้วนแล้วแต่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศเข้ามาให้บริการเกือบจะทั้งหมด (จะมีเพียงแค่บางเกมเท่านั้นพัฒนาขึ้นโดยคนไทย) ซึ่งแน่นอนว่าในสัญญาการซื้อขายนั้นต้องจะมีระยะเวลาในการถือครองสิทธิ์ระบุไว้อย่างชัดเจน ส่วนระยะเวลานั้นก็ขึ้นอยู่กับตอนคุยตกลงทำสัญญากัน เมื่อครบกำหนดสัญญาก็ต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะต่อหรือไม่ ซึ่งตรงส่วนนี้ทางผู้ให้บริการหรือแม้กระทั่งผู้พัฒนาเองก็สามารถที่จะต่อหรือไม่ต่อสัญญาก็ได้ ซึ่งตรงส่วนนี้ผมมองว่า ผู้ให้บริการในบ้านเราเสียเปรียบสุดๆ อุตส่าห์ปลุกปั้นมาตลอดจนเกมประสบความสำเร็จ แต่ท้ายสุดสิทธิ์ในต่อสัญญาก็ขึ้นอยู่กับทางผู้พัฒนาว่าจะต่อหรือไม่ต่อ หรือดีไม่ดีผู้ให้บริการบางรายอาจให้ราคาสูงกว่า จนทำให้สิทธิ์ต้องเปลี่ยนมือก็ว่ากันไป (ในกรณีนี้เราก็เห็นมาหลายเกมแล้ว)
และอีกหนึ่งปัญหาทีพบเห็นบ่อยๆ นั่นก็คือ ผู้พัฒนาไม่พัฒนาต่อ… ด้วยเหตุผลหลายประการไม่ว่าจะเป็น ทีมผู้พัฒนาแตก หรือเกมนี้ไม่ประสบความสำเร็จในประเทศอื่นๆ จึงต้องย้ายทีมพัฒนาชุดเดิมไปทำเกมใหม่ๆ จึงส่งผลให้การพัฒนาเกมนั้นๆ ช้าลง หรือไม่ก็หยุดพัฒนาไปเลยก็มี ปัญหาจึงมาตกอยู่กับผู้ให้บริการเต็มๆ ซึ่งตรงนี้ก็น่าเห็นใจ…
• กระแสตลาดเปลี่ยน
ในปีนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เกมบนสมาร์ทโฟนมาแรงมาก นี่ผ่านมาครึ่งปีพอดิบพอดีมีเกมมือถือเปิดใหม่ในบ้านปาไป 50-60 เกมแล้ว ด้วยเหตุที่ว่าผู้เล่นสามารถเข้าถึงตัวเกมได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งค่าลิขสิทธิ์เกมถูกกว่าเกมออนไลน์อยู่มากกนัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผู้ให้บริการต่างๆ หันไปจับเกมมือถือมากขึ้น แต่ในส่วนนี้ผมมองว่ามีผลกระทบน้อย เนื่องจากตัวผมและเกมเมอร์หลายๆ คนก็ยังคงเล่นเกมออนไลน์และเกมมือถือไปพร้อมๆ กัน ส่วนเหตุหลักๆ นั้นน่าจะอยู่ที่ข้อต่อไปซะมากกว่า
• เกมเมอร์รู้มากขึ้น มีทางเลือกมากขึ้น
ก่อนอื่นต้องขอย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาต้องบอกเลยเลยว่า เกมส่วนใหญ่ที่เปิดมักจะประสบความสำเร็จแทบจะทุกเกม จึงทำให้มีเกมปิดตัวน้อยมาก แต่มาในยุคนี้ที่อินเตอร์เน็ตเร็วขึ้น อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป เกมเมอร์หันไปเล่นเกมเซิร์ฟนอกกันมากขึ้น ก็เนื่องมาจากเกมใหญ่ๆ ดังๆ มักจะเปิดเซิร์ฟนอกก่อน พอมาเปิดเซิร์ฟไทย เกมเมอร์กลุ่มนี้ก็เล่นไปไวจนเวลตันในระยะเวลาอันรวดเร็ว พอตันแล้วก็เริ่มเบื่อหน่ายเพราะกว่าแพทช์ใหม่จะมาก็ต้องใช้เวลาเป็นเดือน จึงหันไปหาเกมอื่นๆ แทน ด้วยเหตุนี้เองผู้ให้บริการเองก็ต้องปรับตัว และวางแผนการตลาดให้รัดกุมมากขึ้น
สรุปสุดท้ายหลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วอย่างนี้ตลาดเกมออนไลน์ยังไปรอดไหม และจะถูกตลาดเกมมือถือกลืนไหม ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแล้วล่ะว่า จะสามารถเข้าใจเกมเมอร์ และปรับกลยุทธ์ได้ขนาดไหน แต่ถ้าถามว่าจะตายไหม ผมบอกเลยว่าไม่ตายแน่นอน เพราะเกมมือถือมันเป็นอะไรที่มาเร็วไปเร็ว ต่อให้ถูกใจขนาดไหนเล่นประเดี๋ยวประด๋าวก็เบื่อแล้ว กลับกันถ้าเป็นเกมออนไลน์ที่ถูกใจ แถมผู้ให้บริการเข้าใจเกมเมอร์ด้วยแล้ว รับรองเลยว่า เล่นกันยาวๆ แน่นอนครับ