สัปดาห์นี้เอาใจคนที่ชอบความเร็วไปกับเกมแนว Racing หรือเกมแข่งรถกันบ้าง ซึ่งก็ออกมาวางจำหน่ายไปได้ซักพักแล้วสำหรับเกมภาคต่ออย่าง DiRT 4 ที่พัฒนาโดยทีมงานคุณภาพ Codemasters และได้ Bandai Namco Entertainment เป็นผู้ดูแลเรื่องการจัดจำหน่าย ส่วนตัวแล้วเพิ่งมีโอกาสได้เข้าไปซิ่งมาบนเครื่อง PS4 ก็เลยจะมารีวิวรายละเอียดและความน่าสนใจของ DiRT 4 ให้อ่านกันครับ เพราะถือว่าเกมรถแข่งสายแรลลี่นี่เป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ
DiRT 4 กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความท้าทายในการแข่งรถแบบสมจริงและจุดเด่นของระบบใหม่ Your Stage ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าไปสร้างสนามแข่งขันของตัวเองได้ จะวางเส้นทาง โค้งโหดๆ หรือเลือกสภาพภูมิอากาศยังไงก็สุดแล้วแต่จะสร้าง ซึ่งจัดว่าเป็นอะไรที่น่าสนุกมากสำหรับภาคนี้ แต่ก่อนที่จะไปดูรายละเอียด Gameplay ขอพูดเรื่องของกราฟิกกันก่อนเลย เวอร์ชั่นที่ได้ทดลองเล่นนั้นเป็นของเครื่อง PS4 ซึ่งกราฟิกตัวโมเดลรถนั้นโอเคมากๆ มีการจำลองรถรุ่นดังมากมายมาให้เราได้เลือกเล่นกว่า 50 คัน ทั้ง Ford Fiesta R5, Mitsubishi Lancer Evolution VI, Subaru WRX STI NR4 และ Audi Sport quattro S1 E2 เป็นต้น พวกฉากสนามแข่งขันก็ทำออกมาดี ท้าทายฝีมือสุดๆ เพียงแต่สิ่งที่ไม่ค่อยชอบก็คือเทกเจอร์บรรยากาศรอบข้างในสนามที่ดูแข็งๆ ไปหน่อย อย่างพวกหญ้าหรือต้นไม้ เป็นต้น ส่วนที่ชอบก็คือบรรยากาศของสภาพภูมิอากาศที่มีหลากหลายทั้งวันแดดออก ฝนตก หมอกลง หิมะ เป็นต้น ยิ่งสนามไหนที่หมอกลงจัดนี่เรียกว่ามองกันแทบจะไม่เห็นทางเลยทีเดียว
มาว่ากันเรื่องของ Gameplay กันบ้าง ใน DiRT 4 ทีมพัฒนา Codemasters ได้นำนักแข่งรถชื่อดังระดับโลกอย่าง Petter Solberg และ Kris Meeke มาร่วมกันพูดคุยและให้ความคิดเห็นในการพัฒนาเกมนี้ออกมาเพื่อให้กลายเป็นเกมแข่งรถที่ดีที่สุดในเวลานี้ด้วย แต่ทั้งนี้เรื่องของ Gameplay จะเน้นไปที่การแข่งในรูปแบบของแรลลี่เป็นหลัก ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่ได้แข่งกันที่ความเร็วอย่างเดียวแต่อยู่ที่การปรับจูนรถกับการควบคุมรถด้วย เพราะแต่ละสนามนอกจากจะมีทั้งโค้ง เนิน เส้นทางที่ขรุขระ ทางแคบ แอ่งน้ำ ยังมีสภาพอากาศที่ต่างออกไปดังที่บอกไว้ข้างต้นด้วย ด้วยเฉพาะหมอกลงนี่เป็นอะไรที่โหดมาก
สนามแข่งขันใน DiRT 4 นั้น มีสนามที่น่าสนใจอย่าง Fitzroy ใน Australia, Tarragona ใน Spain, Michigan ใน the United States, Värmland ใน Sweden และ Powys ใน Wales เป็นต้น ส่วนโหมดการแข่งขันมีทั้งแบบเนื้อเรื่องแข่งไปตามด่านต่างๆ อย่าง Career หรือจะแข่งกับคนอื่นแบบออนไลน์ใน Multiplayer ก็ได้ และถ้าชอบแข่งวัดกันที่ความเร็วแบบจับเวลาก็แนะนำให้เล่นในโหมด Joyride หากใครชอบเกมแข่งรถแบบแรลลี่ก็ลองไปหา Dirt 4 มาเล่นกันได้ครับ มีวางจำหน่ายให้เล่นทั้งบน PC, PS4 และ Xbox One
ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment Asia ประเทศสิงคโปร์ที่มอบโค้ดเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ
นักเขียนยุคบุกเบิกที่เล่นเกมมันทุกแพลตฟอร์ม เล่นทุกวัน เล่นมันทุกแนววววว