เรื่องราวของอภิมหากาพย์ของการเล่นเก้าอี้ดนตรีของเกมออนไลน์ในบ้านเรายังคงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆแม้กระทั่งเกมระดับตำนานอย่าง Ragnarok เกมที่มีความผูกพันธ์ต่อหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น Asiasoft เอง หรือแม้กระทั่งเกมเมอร์ที่ผมเชื่อว่า 80% คนเด็กยุคนั้นเริ่มรู้จักเกมออนไลน์เพราะ Ragnarok Online ก็โดนกับเขาด้วย
Ragnarok เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้เมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2544 ส่วนในประเทศไทยเปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 นำเข้าโดยบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
จนประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยจำนวน Peak Concurrent User หรือมีผู้เล่นที่ออนไลน์พร้อมกันสูงสุดมากกว่า 110,600 ราย เรียกว่าเป็นสถิติของวงการเกมบ้านเราที่ผมเชื่อว่ายังไม่มีใครทำลายได้ เกือบทุกเครื่องในร้านเกมเล่น Ragnarok จนผู้ให้บริการอย่าง Asiasoft ถึงกับโด่งดังไปพร้อมกับเกมในสังกัด แต่การเล่นเกมออนไลน์ในยุคนั้น มีข้อจำกัดคือเล่นได้เพียงแค่ 4 ทุ่ม หากใครจะเล่นหลัง 4 ทุ่ม ต้องกรอกแบบฟอร์มขออนุญาติจากค่ายเกมไปยื่นที่ไปรษณีย์ เพื่อขอสิทธิ์นั้น ผมไม่แน่ใจว่า 30 หรือ 40 บาท ซึ่งบอกเลยตอนนั้นไม่ว่าใครก็ต้องขอ ไม่งั้นนอนดูเพื่อนเล่นแน่ๆ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มของการนำเข้าเกมออนไลน์จากเกาหลี มาเปิดให้เกมเมอร์บ้านเราได้เล่นกันเกมแล้วเกมเล่า เป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง
บรรยากาศเก่าๆ ของ RO
14 ปีผ่านไปใครจะเชื่อว่าเกมตำนานอย่าง Ragnarok จะจากผู้ปลุกปั้นอย่าง Asiasoft ไปอยู่ในมือของ Electronics Extreme ซึ่งที่มาที่ไปของการย้ายบ้านผมจะไม่ขอเอ่ยถึง เพราะคนที่รู้ดีทั้งหมดคือทีมผู้พะฒนาอย่าง Gravity
จากแถลงการของทางฝั่ง Asiasoft มีอยู่ข้อความหนึ่งที่ว่า “โดยบริษัทฯ จะทำการส่งต่อข้อมูลภายในเกมตั้งแต่วันแรกที่ทำการเปิดเกม จนถึงวันสิ้นสุดสัญญา คืนให้กับผู้พัฒนาเกม” ซึ่งตรงนี้ผมไม่รู้ว่าเรียกเสียงเฮให้กับแฟนๆ Ragnarok ขนาดไหน แต่ถ้าจะให้มองก็คือ Asiasoft ยังคงมีมนุษยธรรม คือถึงแม้จากกันแต่ก็ยังส่งมอบปัจจัยในการเดินทางต่อให้กับผู้ดูแลคนใหม่ไปด้วย ซึ่งยังมีอีกคือกิจกรรมที่ทาง Asiasoft เอาใจแฟน Ragnarok ทิ้งทั้ายนั่นคือพวกกิจกรรมทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็น GM ปล่อย Boss ทุกวันจนสิ้นสุดการให้บริการ, Activities with GM (Farewell), แจก Airtime ฟรี สำหรับทุกคน และ แจกสนั่น ลั่นเซิฟ
แต่ด้วยความหวังดีของทาง Asiasoft ที่มีต่อแฟนๆ Ragnarok หลายคนอาจจะไม่ได้มองเช่นนั้น เพราะถ้าเป็นการเปิดตามปกติไม่มีการส่งท้าย มีไหมที่จะปล่อยบอสรัวๆ แจกของรัวๆ ซึ่งบอกเลยยากมาก เพราะมันอาจจะกลายเป็นว่าความสมดุลของเกมเริ่มเสียไป แน่นอนครับ คนที่จะต้องแก้โจทย์นี้ต่อไปคือคนที่รับช่วงต่ออย่าง EXE เพราะทาง Asiasoft เองก็บอกแล้วว่า ข้อมูลทั้งหมดยกให้กับผู้พัฒนา นั่นหมายถึงทาง EXE จะมีสิทธิ์ใช้ข้อมูลทั้งหมดที่ทาง Asiasoft ส่งมาให้ และที่สำคัญ เอาความไม่สมดุลของเกมติดตัวมาด้วยนั่นเอง
ที่นี้ก็อยู่ที่ EXE ว่าจะทำอย่างไรต่อไป การเดินทางต่อปีที่ 15 ของ Ragnarok เมืองไทยจะออกมาอย่างไร เพราะตอนนี้กระแสของแฟนๆ RO ก็มีอยู่ 2 ฝ่าย นั่นคือการเอาข้อมูลเดิมมาใช้ เพราะลงทุนไปหลายบาท กับอีกพวกที่หวังว่างานนี้จะได้เริ่มใหม่ไปพร้อมๆ กันโดยไม่ใช้ข้อมูลที่ของเดิมมีมาให้ครบทุกอย่าง ตรงนี้ทาง EXE ต้องคิดดีๆ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ และวิทยายุทธที่ทีมงานของ EXE มี ผมเชื่อว่า Ragnarok ในเวอร์ชั่นของทาง EXE น่าจะผ่านไปได้แบบไม่ยาก ที่สำคัญ ดูเหมือนว่าแฟนๆ Ragnarok จะยังคงหนุนหลังเกมในดวงใจต่อไปแม้จะเปลี่ยนค่ายใหม่ก็ตาม
แต่ความคาดหวังของแฟนๆ Ragnarok ที่มีต่อ EXE ดูเหมือนว่าจะสูงพอสมควร โดยเฉพาะคนที่เลิกเล่นไปก่อนหน้านี้ คิดจะหวนคืนความหลังอันหวานชื่นอีกสักครั้ง ด้วยการคาดหวังว่า EXE จะทำเกมออกมาได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา นั่นหมายความว่าคนกลุ่มนี้สนับสนุนให้ทาง EXE เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จะเป็น EP. ไหนก็ว่ากันอีกเรื่อง ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาจะได้ผู้เล่นเก่าที่เลิกไปด้วยปัญหาต่างๆ กลับมาเล่นกันอีกครั้ง แม้กระทั่งพวกเล่นเซิร์ฟเวอร์เถื่อนก็มีเอนเอียงว่าจะลองมาเล่นกันแบบถูกต้อง หากทุกอย่างมันจะเริ่มต้นใหม่กันจริงๆ
แบบนี้เท่ากับว่าทาง EXE มีโอกาสที่จะเริ่มปีที่ 15 ของ Ragnarok ด้วยการเริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด เพื่อหวังให้แฟนๆ Ragnarok ยุคเก่ากลับมาเล่นกันอีกครั้ง รวมถึงเกมเมอร์ยุคใหม่ที่สามารถเริ่มไปพร้อมๆ กันได้ แม้จะเสียเปรียบเรื่องของความโปรก็ตาม แต่ถ้าเอาข้อมูลเก่ามาใช้มันก็คงไม่ต่างจากของเดิมที่เป็นอยู่ ซึ่งก็จะได้เพียงแค่คนที่ยังเล่นอยู่เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น ความเป็นไปได้ เกิน 60% ว่างานนี้ทาง EXE เริ่มใหม่แน่นอน นั่นก็เพราะเขามีทีมงานคุณภาพที่มีศักยภาพเพียงพอในการปั้นให้ Ragnarok กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ไม่ต่างจาก Asiasoft ที่เคยทำไว้นั่นเอง แล้วคุณละครับ คิดว่าน่าจะเริ่มใหม่ หรือสานต่อของเก่าโดยใช้ข้อมูลเดิมกันแน่
