เผยชีวิตรัก’เจ้าชายวิลเลียม-เคท’ในเซนต์แอนดรูว์

2,181 views

 

          เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน โดยเมื่อเดือนกันยายน ปี 2544 หรือวันแรกของภาคเรียนที่ทุกพื้นที่ในเมืองเซนต์ แอนดรูว์ เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง ฝูงชนพากันเข้าแถวยาวตามท้องถนนด้วยความกระหายที่จะได้เห็นนักศึกษาใหม่ของ เมือง คือ เจ้าชายวิลเลียม ที่เสด็จพร้อมเจ้าฟ้าชายชาร์ลส พระบิดา และทรงตรงเข้าทักทายพสกนิกร ที่รวมถึงบรรดาเด็กวัยรุ่นสาว ๆ หลายร้อยคนด้วย

          วันแรกในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นวันแรกที่เจ้าชายวิลเลียมทรงใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน ทั้งการไปจับจ่ายตามร้านค้า หรือแม้แต่ออกไปเที่ยวกับพระสหายเยี่ยงชายหนุ่มธรรมดาทั่วไป ส่วนนางสาวเคท ได้เริ่มชีวิตนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในช่วงเดียวกับเจ้าชายวิลเลียม และทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่การต่อสู้กับกระแสความสนใจในตัวเจ้าชายวิลเลียมไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเคที่ นิโคลล์ นักเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ ให้ความเห็นว่า นางสาวมิดเดิลตัน เธอต้องทำในสิ่งที่เกินความคาดหมาย นั่นคือ ต้องออกวิ่งแต่เช้า และรีบไปยัห้องอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่า จะได้เจอเจ้าชายวิลเลียม และเมื่อจบภาคแรกของปีการศึกษา นางสาวมิดเดิล ตัน ก็ได้ร่วมอาหารเช้ากับเจ้าชายวิลเลียม และกลายเป็นเพื่อนสนิทเมื่อจบปีการศึกษาแรก ก่อนจะย้ายไปอยู่ด้วยกันเมื่อขึ้นปี 2

 

 

          พรหมลิขิตได้ชักพาทั้งสองมา พบกันและเปิดโอกาสให้ตั้งแต่ปีการศึกษาแรก โดยที่นางสาวมิดเดิลตัน ได้โอกาสจากงานเดินแฟชั่นการกุศล ที่เธอมาในชุดชั้นในสีดำ สวมทับด้วยชุดซีทรู ซึ่งเจ้าชายวิลเลียมถึงกับกระซิบพระสหายว่า ” เคทร้อนแรง “เจ้าชายทรงพำนักอยู่ที่อพาทเม้นท์เดียวกับเคท ในโฮ้ป สตรีท ตอนขึ้นปีสอง ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย แต่ในช่วงแรกเริ่มของความสัมพันธ์นั้น ทั้งสองช่วยกันปกปิดเป็นความลับและรู้กันเฉพาะเพื่อนสนิทเท่านั้น และหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครได้เห็นตอนเข้าหรือออกจากอพาทเม้นท์ด้วยกัน

         ลินดา คันนิ่งแฮม เจ้าของนอร์ธพอยต์ คาเฟ่ บอกว่า ได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและนางสาวมิดเดิลตัน พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยนางสาวมิดเดิลมักจะมาที่ร้านกับกลุ่มพระสหายของเจ้าชายวิลเลียม ส่วนเจ้าชายวิลเลียมก็จะอยู่ในร้านกับพระสหายซึ่งเท่ากับทั้งคู่อยู่ในร้าน เดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องนั่งด้วยกัน

        ตอนที่ความลับถูกเปิดเผย เจ้าชายวิลเลียมและนางสาวมิดเดิลตัน ก็ยังปลอดภัยในเซนต์แอนดรูว์ เพราะได้รับการคุ้มกันจากเจ้าหน้าที่ราชสำนัก และสื่อมวลชนก็ไม่เข้ายุ่งเกี่ยวตามคำขอร้องของพระราชวังบั๊คกิ้งแฮม แต่หลังจากทั้งสองสำเร็จการศึกษา เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนปี 2548 ก็เป็นวันสุดท้ายของการใช้ชีวิตอย่างเสรีด้วย

          เมื่อชีวิตในรั้ว มหาวิทยาลัยสิ้นสุด สื่อมวลชนก็กลับไปทำหน้าที่ตามปกติ ซึ่งแม้ว่าทั้งคู่จะพยายามหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าสนใจของสื่อมวลชน แต่เพียงแค่เริ่มต้นปี 2550 เหล่าช่างภาพนับไม่ถ้วน ก็ไปปักหลักที่บ้านพักของนางสาวมิดเดิลตัน ตอนที่เธอฉลองวันเกิดครบ 25ปี ช่างภาพรุมล้อมเธอตอนที่เดินไปขึ้นรถ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความไม่พอใจให้เจ้าชายวิลเลียม โดยเฉพาะการไล่ล่ารังควาญของพวกปาปารัซซี่ ที่นำไปสู่อุบัติเหตุที่ทำให้เจ้าหญิงไดอานา พระมารดของพระองค์สิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะปกป้องนางสาวเคทจากแรงกดดันมหาศาลที่รายล้อมรอบตัวเธอ ถึงขั้นมีการเรียกทนาย เพื่อเตรียมใช่กฎหมายเล่นงานช่างภาพที่เข้าใกล้เธอมากเกินไป

 

 

        ตอนที่มีการประกาศหมั้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ช่างภาพได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพต้องเข้าไปอย่างระมัดระวัง และใครที่เคยทำให้พระราชวงศ์ไม่พอใจมาแล้ว ก็ไม่ได้รับอนุญาตปัจจุบัน นางสาวมิดเดิลตัน ยังคงได้รับการคุ้มกันเพื่อไม่ให้ถูกกลุ้มรุมเหมือนตอนที่จัดงานวันเกิดครบรอบปีที่ 25 อีก

       เจ้าชายวิลเลียมและนางสาวเคท ได้กลับไปที่มหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดรูว์ ในปีนี้ แต่ไม่ใช่ในฐานะนักศึกษาแต่เป็นในฐานะแขกกิตติมศักดิ์ ที่ร่วมฉลองครบรอบ 600 ปี ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยหลังจากนั้น ทั้งสองได้ใช้เวลาออกพบปะและขอบคุณประชาชนในท้องถิ่น ที่ช่วยให้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมีความสุขและราบรื่น และพวกเขาก็ได้เห็นทั้งคู่เดินไปด้วยกัน

       อาเธอร์ เอดเวิร์ดส์ ช่างภาพพระราชวงศ์ ให้ความเห็นว่า เคทดูเป็นธรรมชาติ เธอทำได้อย่างยอดเยี่ยมเวลาอยู่กับฝูงชน และนับเป็นย่างก้าวที่ดีสำหรับกษัตริย์วิลเลียมและพระราชินีแคทเธอรีนใน อนาคต

 

ขอขอบคุณ : คม ชัด ลึก