2 วันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์ อาทิตย์ เชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาสวรรค์ของหลายๆ ท่าน ซึ่งแม้แต่ตัวผมเองก็คิดเช่นนั้น เพราะการทำงานมาตลอดสัปดาห์ มันจะได้หยุดพักก็แค่เสาร์ และอาทิตย์เท่านั้น แต่โดยสายงานที่พวกผมเป็นอยู่ บางทีก็ต้องยอมรับว่าบางทีสวรรค์ที่ต้องการต้องมีพับเก็บใส่กระเป๋าไปบ้าง เพราะช่วง 2 วันนี้แหละครับที่พี่ๆ ที่น่ารัก ผู้ให้บริการผู้ใจดี มักจัด Event พิเศษเพื่อตอบแทนลูกค้า ซึ่งรูปแบบการจัดก็ล้วนแล้วแต่นโยบาย ซึ่งแน่นอนว่า สัปดาห์ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาผมต้องพับสวรรค์นั้นไว้ในกระเป๋าตามที่คาด
ปลายทางของงานที่ผมต้องเอามาเสียบแทนวันหยุดนั่นคือเดอะมอลล์งามวงศ์วาน จากบางนาแหล่งที่พักเดินทางไกลเอาเรื่อง แต่ยังไงก็ต้องไป เพราะอะไรนะเหรอ ใช่ครับหน้าที่การงานส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งนั่นคือใจล้วนๆ เพราะปลายทางที่ผมไปคืองาน Extreme Games 2018 ปีนี้ข้ามฝั่งไปไกลเลย จากปีที่แล้วที่แฟชั่น ปีนี้โดดไปงามศ์วงวาน ปีหน้าถ้าไปเชียงใหม่ก็จะตามไปไม่เชื่อคอยดู
ถามว่าทำไมต้องตาม เพราะผมยังเชื่อในเสนห์ของการจัดงานของ EXE เอาจริงๆ พูดกันตามประสาชาวบ้าน อาจจะไม่ได้ทุ่มงบมหาศาลจัดงานให้เวอร์วังอลังการงานสร้าง แต่โดยสไตล์เขาจะเน้นไปที่การเข้าถึง และรองรับทุกความต้องการของบรรดาเกมเมอร์ที่สละเวลาอันมีค่าเพื่อเดินทางมาร่วมงาน อันนี้เชื่อว่ามันสร้างความพึงพอใจมากกว่าการเห็นงานที่อลังการแต่มาแล้วไม่ได้อะไร
ในงานก็มีบูธต่างๆ ที่เอาไว้ให้เล่นเกม ร่วมกิจกรรมแจกของรางวัล รวมถึงบูธลงทะเบียนรับไอเทมที่แถวยาวคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะเสาะหาปลายแถวแทบไม่เจอ จนต้องเผลอไปถามน้องๆ ที่ต่อแถวว่าอดทนรอไหวเรอะ คำตอบที่บอกมาคือ ยาวกว่านี้ก็รอได้ เอาสิ แสดงว่าของดีสุดๆ นี่แหละฮะ ที่ผมบอกว่ามันทำให้คนที่มาได้อะไรมากกว่าแค่อลังการ
แต่อีกอย่างหนึ่งที่ผมต้องมาเพื่อสิ่งนี้ นั่นคือการแข่งขัน RTC 2018 ที่ปีนี้มาในชื่อเต็มคือ Ragnarok Thailand Championship 2018 Presented by Red Bull EXTRA ซึ่งถือว่าเป็นพระเอกของงานก็ว่าได้ ก่อนงานเริ่มสิ่งหนึ่งที่ผมจับตา นั่นคือเงินรางวัล เพราะอย่างที่ทราบว่าแนวคิดของทาง EXE คือการใช้ระบบ Prize Pool ซึ่งปีที่แล้วใครยังจำกันได้ ระบบนี้ทำยอดเงินรางวัลของการแข่งขัน RTC2017 ทะลุ 1 ล้าน แต่ปีนี้การตอบรับดีกว่าเดิม เพราะตัวเลขที่ทาง EXE เขาเคลมไว้คือ 1,292,300 บาท รวมกับเงินสนับสุนประจำรายการโปะเข้าไปอีก บวกลบคูณหารเรียบร้อยเงินรางวัลรวมของ RTC2018 คือ 1,615,000 บาท *0* เยอะเอาเรื่องทีเดียว ส่วนใครแชมป์รับไปเหนาะๆ 800,000 บาท
ยอดเงินรางวัลขนาดนี้ถือว่าเป็นลำดับต้นๆ ของการแข่งขันในบ้านเรา ซึ่งถ้าจะให้เปรียบกันจริง อาจจะถือเป็นลำดับต้นๆ ของการแข่งขันอีสปอร์ตในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยด้วยซ้ำ มีไม่กี่รายหรอกครับที่กล้าจ่ายเงินขนาดนี้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ควักจากเงินในกระเป๋า แต่การนำเอาเงินที่พี่น้องชาวเกมเมอร์ควักลงระบบเพื่อสมทบเงินรางวัลมันก็ไม่ต่างจากการคืนกำไรให้กับเพื่อนๆ ร่วมวงการนั่นแหละจริงมั้ย
เงินรางวัลเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์เสมอสำหรับ EXE แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงนั่นคือมาตรฐานการจัดการแข่งขัน เงินรางวัลจะสูงเพียงใดมันจะสูญเปล่าทันทีเมื่อระบบการจัดการแข่งขันไม่ได้เรื่อง แต่คำว่าไม่ได้เรื่องมันใช่ไม่ได้กับ RTC 2018 เพราะต้องยอมรับว่าฝ่ายจัดการแข่งขันทำออกมาได้ดีเกินคาด การเฟ้นหา 8 ทีม สุดท้ายมาแข่งกันในวันงานตลอด 2 วันเต็มอาจจะดูไม่เยอะ แต่สุดท้ายการจัดแข่งแบบ Double Elimination มันทำให้การแข่งขันดูแน่นทั้ง 2 วัน อีกอย่างคือระบบนี้มันไม่ได้เอื้ออำนวยให้กับทีมที่ฟลุ้คชนะ และไม่ได้ปิดโอกาศสำหรับทีมดีที่เผลอพลาด เพราะมันมีสาย Loser ให้แก้ตัว ซึ่งถือเป็นระบบที่สากลนิยมใช้กันในเวลานี้
ตัวสถานที่แข่งขันจัดแบบง่ายๆ แข่งได้พร้อมกัน 2 คู่ ล้อมรั้วกั้นกองเชียร์ออกป็นสัดส่วน แต่ยังอยู่ในวิศัยทัศน์ที่กองเชียร์สามารถมองหาตัวแทนกิลด์เพื่อเชียร์ได้แบบไม่ห่างเหิน ซึ่งตรงนี้ครับที่ผมยอมรับเลยว่า “ตกใจ” นี่มันเชียร์ RO หรือเชียร์มวย เพราะบรรยากาศการเชียร์ทุกคู่ล้วนแล้วแต่สร้างสีสรรค์ให้กับงานอย่างเหลือเชื่อ แต่ต่อให้การเชียร์จะดุดัน เล้าใจปานใด แต่สุดท้ายมันก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ร่วมในการแข่งขัน จบเกมนักกีฬาจับมือ กองเชียร์ปรบมือ นี่แหละครับภาพที่ผมเห็นจากการแข่งขัน RTC2018
หลายคนอาจบอกว่าผมเวอร์ ก็เวอร์จริงๆ นั่นแหละ ฮาๆ แต่การเวอร์ของผมคือการได้เอาตัวเองไปมีส่วนร่วมในงาน ซึ่งบอกเลยว่าใครไม่อยู่ตรงนั้นไม่รู้หรอกครับ ถึงแม้มันจะมีเพียงแค่ 2 กิลด์ที่ร่วมแข่งร่วมเชียร์ในเวลาเดียวกัน แต่สิ่งที่สะท้อนมันคือความสามัคคีที่ผมบอกได้เลยว่ายืนอยู่ข้างๆ ขนลุกบวกกับหูแทบแตก พูดอะไรไม่ได้มากเพราะงานมันผ่านไปแล้ว คงต้องรอไปพิสูจน์กันเองในปีหน้ากับ RTC2019
สุดท้ายก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทีม Alternative indy ที่คว้าแชมป์และรับเงินรางวัล 800,000 บาทไปครอง และอยากจะบอกว่า สวรรค์ เสาร์ อาทิตย์ที่หายไป ผมไม่เสียดายเลยจริงๆ เพราะสิ่งที่ได้มาคือการได้เห็นการคงอยู่ของชาว RO ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี มนต์เสนห์ในตัวมันก็ไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลา สิ่งเหล่านี้จะอยู่ไม่ได้หากขาดความเป็นกลุ่มก้อนของคนที่รักใน RO ทั้งเกมเมอร์ หรือผู้ให้บริการ ล้วนแล้วแต่สำคัญทั้งสิ้น
ส่วนใครที่อยากติดตามข่าวสารอื่นๆ รวมถึงการแข่งขันหลังจากนี้ลองตามกันไปที่ ครับ