ส่วนเสริมใหม่ Assassin’s Creed Valhalla Wrath of the Druids จะเปิดให้เล่นกัน 29 เมษายน

wrath of the druids ac valhalla
wrath of the druids ac valhalla

Ubisoft ประกาศแจ้งว่าส่วนเสริมขนาดใหญ่ตัวแรกของ Assassin’s Creed Valhalla ที่ชื่อว่า Wrath of the Druids จะเปิดให้เล่นในวันที่ 29 เมษายน นอกจากนี้แล้วในซีซันที่ 2 ฤดูกาลแห่ง Ostara จะมีเนื้อเรื่องเอ็กซ์คลูซีฟและกิจกรรมภายในเกมให้ผู้เล่นทุกคนเข้าเล่นได้เลย โดยเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ผู้เล่นสามารถเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมแบบจำกัดเวลาของเทศกาล Ostara พร้อมด้วยชาลเลนจ์และของรางวัลใหม่ ๆ

เทศกาล Ostara อัปเดตแรกของซีซัน Ostara เชิญชวนผู้เล่นให้มาพบกับอีเวนต์กิจกรรมภายในเกมจนถึงวันที่ 8 เมษายน ในพื้นที่ที่จัดไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะใน Ravensthorpe เทศกาลอันมีธีมอีสเตอร์มากมายจะเปิดให้เล่น ได้แก่

  • กิจกรรมตกแต่งฐานที่มั่น
  • มินิเกมดวลการดื่ม, แข่งยิงธนู, และการต่อสู้
  • ภารกิจประจำตัวละครใหม่ 3 รายการ: เอวอร์สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรม Egg Hunt, งานฉลองของ May-Queen, และคุ้มครองฐานที่มั่นจากวิญญาณในยามราตรี
  • ทักษะใหม่ 3 ชนิด: Fearless Leaper จะทำให้เอวอร์ใช้ท่ากระโดดจู่โจมลงบนตัวศัตรู ในขณะที่ท่า Raven’s Loot และ Loot Food จะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของ เอวอร์ ทั้งในระยะใกล้และระยะไกล
  • ของรางวัลเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งมีทั้งเครื่องตกแต่งฐานที่มั่นและไอเทมตกแต่งตัวละคร
ACV screen Season 2 Ostara Festival Ambiance 210318
ACV screen Season 2 Ostara Festival Egghunt 210318
ACV screen Season 2 Ostara Festival Mastery Challenge Ranged Treetops 210318
ACV screen Season 2 Ostara Festival MayQueen RoosterFight 210318

หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ของเทศกาล Ostara ผู้เล่นจะต้องไปถึงประเทศอังกฤษ และเล่นเส้นเรื่องแรกจนจบเสียก่อน – โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นเส้นเรื่อง Grantebridgescire หรือ Ledecestrescire ก็ได้ หลังจากนั้นแล้ว งานเทศกาลจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อผู้เล่นกลับมาเยี่ยมฐานที่มั่น หากต้องการเข้าเล่นกิจกรรมของ May-Queen ฐานที่มั่นของผู้เล่นจะต้องมีเลเวล 3 เสียก่อน

2564 03 20 10 27 24 Window

เริ่มตั้งแต่วันนี้ ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอุปกรณ์ของเอวอร์ได้ด้วยระบบการตกแต่งรูปโฉม ซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของไอเทมโดยไม่เปลี่ยนค่าสถานะต่าง ๆ หรือก็คือเมนู “Change Appearance” ภายในเกม ค่าพลังต่าง ๆ ของอุปกรณ์และชุดเกราะจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่ารูปลักษณ์ของเอวอร์จะเปลี่ยนไปและแม้จะมีการตกแต่งเพิ่มเติมก็ตาม ทำให้ผู้เล่นสามารถปั้นรูปโฉมตัวละครได้ตามที่ต้องการ และยังคงปลดปล่อยสไตล์ไวกิ้งภายในจิตวิญญาณได้อย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อมีการพบอุปกรณ์หรืออาวุธสักชิ้นหนึ่ง รูปลักษณ์ของมันสามารถนำมาใช้ตกแต่งอุปกรณ์หรืออาวุธอื่น ๆ ได้โดยการจ่ายเงินภายในเกม ผ่านตัวละคร Blacksmith ในเมือง Ravensthorpe หากไอเทมชนิดนั้นอยู่ในประเภทเดียวกัน

2564 03 20 10 27 03 Window

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับกลุ่มผู้เล่น Assassin’s Creed Valhalla ผู้เล่นทุกคนจะได้รับชุดของ Altair, ชุดอุปกรณ์และเครื่องตกแต่งจากเทศกาล Yule, และ 300 opals ฟรี หากต้องการรับของรางวัลนี้ พวกเขาจะต้องเข้าไปรับผ่าน Animus Store

การอัปเดตอีกสองระบบจะช่วยเพิ่มคอนเทนต์ให้กับซีซัน Ostara ได้แก่:

  • Mastery Challenge: การอัปเดตครั้งที่สองจะเพิ่มโหมดเกมใหม่ ซึ่งสร้างจากระบบการต่อสู้หลักของ Assassin’s Creed Valhalla นำประสบการณ์เล่นซ้ำได้อย่างไม่รู้จบ โดยจะมี ยอดปรมาจารย์ เดินทางมาถึงฐานที่มั่น สร้างแรงบันดาลใจให้ เอวอร์ ไปฝึกฝนและทำภารกิจชาลเลนจ์อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้กลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์บ้าง
  • ของรางวัลอื่น ๆ เพิ่มเติม

ใน Wrath of the Druids ที่จะเปิดให้บริการ 29 เมษายนนี้ ผู้เล่นจะได้เดินทางสู่ไอร์แลนด์และเปิดโปงเรื่องราวอันน่าพิศวงของลัทธิดรูอิดอันเก่าแก่และลึกลับ ติดตามและค้นหาสมาชิกของพวกเขา ดำดิ่งสู่เรื่องเล่าและตำนานพื้นบ้านของ ชาวเกลิก พวกเขาจะต้องต่อสู้ฝ่าฟันป่าผีสิงและภูมิทัศน์อันตระการตา ในขณะที่ต้องสั่งสมบารมีท่ามกลางเหล่าราชาเกลิก เนื้อเรื่องส่วนเสริมตอน Wrath of the Druids สามารถสั่งซื้อแบบแยกต่างหากได้ในราคา 670 บาท ผู้เล่นสามารถเข้าเล่นส่วนเสริมได้ผ่านทางซีซันพาส ซึ่งวางจำหน่ายแล้วในราคา 1,070 บาท หรือได้รับฟรีเมื่อซื้อ อัสแซสซินส์ ครีด วัลฮัลลา ฉบับโกลด์, อัลติเมต, และคอลเล็กเตอร์

ACV Mock Up Season

Assassin’s Creed Valhalla วางจำหน่ายแล้วบนเครื่องคอนโซล Xbox Series X | S, Xbox One, PlayStation 5, PlayStation 4, และ Epic Games Store รวมถึง Ubisoft Store บน Windows PC สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ assassinscreed.com